ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี? คู่มือเลือกฟิลเลอร์ให้ปากอวบอิ่ม ปี 2025

การเลือก ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี เป็นคำถามสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการริมฝีปากอวบอิ่ม เพราะแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน และส่งผลต่อความเป็นธรรมชาติ ความอวบอิ่ม และระยะเวลาที่ฟิลเลอร์จะอยู่ได้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับฟิลเลอร์ปากยี่ห้อต่างๆ ที่ได้รับความนิยมในปี 2025 พร้อมข้อมูลเชิงลึกจากผู้ชำนาญด้านความงาม

• ฟิลเลอร์ปากคืออะไร?

• ทำไมยี่ห้อของฟิลเลอร์ปากจึงสำคัญ?

• ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดีที่สุด? 7 แบรนด์ยอดนิยมปี 2025

• เกณฑ์ในการเลือกฟิลเลอร์ปากที่เหมาะกับคุณ

• ข้อควรระวังในการเลือกฟิลเลอร์ปาก

ฟิลเลอร์ปาก คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปในริมฝีปากเพื่อเพิ่มปริมาตร แก้ไขรูปทรง หรือปรับความสมมาตรของริมฝีปาก ช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้น และมีรูปทรงที่สวยงามมากขึ้น

สารไฮยาลูรอนิก แอซิดเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ทำให้ฟิลเลอร์ปากมีความปลอดภัย และสามารถสลายไปเองโดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย

อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ปาก ช่วยเพิ่มมิติให้รูปทรงของปาก ดูสวยละมุนอย่างปลอดภัย

การเลือก ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี มีความสำคัญเพราะยี่ห้อที่แตกต่างกันจะมีคุณสมบัติเฉพาะที่ส่งผลต่อปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

• ความเป็นธรรมชาติของริมฝีปาก – บางยี่ห้อให้ความรู้สึกนุ่มเหมือนริมฝีปากจริง ในขณะที่บางยี่ห้ออาจให้ความรู้สึกแข็งกว่า
• ระยะเวลาที่อยู่ได้ – ฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อมีระยะเวลาการอยู่ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ 6 เดือนไปจนถึง 18 เดือน
• ความสามารถในการอุ้มน้ำ – บางยี่ห้อมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำสูง ทำให้ริมฝีปากดูชุ่มชื้นและอวบอิ่มมากกว่า
• ความยืดหยุ่น – ฟิลเลอร์บางยี่ห้อมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวมากอย่างริมฝีปาก
• การจัดการกับอาการบวม – บางยี่ห้อมีเทคโนโลยีที่ช่วยลดอาการบวมหลังฉีด ทำให้เห็นผลลัพธ์สุดท้ายได้เร็วกว่า

1. Juvederm

Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับการเสริมริมฝีปาก โดยมีรุ่นที่เหมาะกับริมฝีปาก ดังนี้

• Juvederm Volite  – เนื้อนุ่ม เหมาะสำหรับการเพิ่มปริมาตรริมฝีปาก อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
• Juvederm Voluma – เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับการเติมขอบริมฝีปากและรอยย่นรอบปาก อยู่ได้นาน 9-12 เดือน
• Juvederm Volift – มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเติมริมฝีปากที่บางมาก อยู่ได้นาน 12-18 เดือน

จุดเด่น: เนื้อฟิลเลอร์มีความเนียนละเอียด กระจายตัวได้ดี ทำให้ริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติ มีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการฉีด

2. Restylane

Restylane เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน ที่มีชื่อเสียงด้านความละเอียดและการคงรูปที่ดี โดยรุ่นที่เหมาะกับริมฝีปาก ดังนี้

• Restylane Kysse – ออกแบบมาเฉพาะสำหรับริมฝีปาก มีความยืดหยุ่นสูง อยู่ได้นาน 9-12 เดือน
• Restylane Refine – เนื้อละเอียดสำหรับการเติมขอบริมฝีปาก อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
• Restylane Volume – สำหรับการเพิ่มปริมาตรริมฝีปาก อยู่ได้นาน 6-12 เดือน

จุดเด่น: ให้ริมฝีปากที่ดูเป็นธรรมชาติมาก เทคโนโลยี NASHA ช่วยให้การกระจายตัวของฟิลเลอร์สม่ำเสมอ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการริมฝีปากที่ดูนุ่มและเป็นธรรมชาติ

3. Belotero

Belotero เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีเนื้อละเอียดและกระจายตัวได้ดีเยี่ยม รุ่นที่เหมาะกับริมฝีปาก

• Belotero Balance – เหมาะสำหรับริมฝีปากที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
• Belotero Intense – สำหรับการเพิ่มปริมาตรริมฝีปากที่มากขึ้น อยู่ได้นาน 9-12 เดือน

จุดเด่น: เทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ทำให้ฟิลเลอร์กลมกลืนกับเนื้อเยื่ออย่างเป็นธรรมชาติ ลดความเสี่ยงของการเกิดก้อน Tyndall effect (การเกิดสีฟ้าใต้ผิว)

4. e.p.t.q.

e.p.t.q. เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีใต้ มี 2 รุ่นที่เหมาะกับริมฝีปาก ได้แก่

• e.p.t.q. S300 – เหมาะสำหรับการเพิ่มปริมาตรริมฝีปาก อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
• e.p.t.q. S500 – สำหรับการปรับรูปทรงริมฝีปาก อยู่ได้นาน 8-10 เดือน

จุดเด่น: มีความบริสุทธิ์สูง ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์จากยุโรปและอเมริกา ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ

5. Neuramis

Neuramis เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีใต้ ที่เน้นความปลอดภัยและความเป็นธรรมชาติ 2 รุ่นที่เหมาะกับริมฝีปาก ดังนี้

• Neuramis Deep Lidocaine – สำหรับการเพิ่มปริมาตรริมฝีปาก อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
• Neuramis Volume Lidocaine – สำหรับการปรับรูปทรงริมฝีปาก อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

จุดเด่น: มีความบริสุทธิ์สูง ลดความเสี่ยงในการแพ้ ราคาคุ้มค่า และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดแต่ต้องการคุณภาพดี

6. FLORE

FLORE เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีใต้ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในไทย มีทั้งหมด 2 รุ่น ดังนี้

• FLORE N – เหมาะสำหรับการเพิ่มปริมาตรริมฝีปาก อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
• FLORE S – สำหรับการเติมขอบริมฝีปาก อยู่ได้นาน 4-6 เดือน

จุดเด่น: ราคาย่อมเยา ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ เนื้อฟิลเลอร์นุ่ม เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นฉีดฟิลเลอร์ปาก

7. Definisse

Definisse เป็นฟิลเลอร์จากประเทศอิตาลี ที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย มีทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่

• Definisse Restore – เหมาะสำหรับการเพิ่มปริมาตรริมฝีปาก อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
• Definisse Touch – สำหรับการเติมขอบริมฝีปาก อยู่ได้นาน 6-8 เดือน

จุดเด่น: มีส่วนผสมของ Antioxidants ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ริมฝีปากชุ่มชื้นและสุขภาพดี

การเลือก ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้

1. สภาพริมฝีปากของคุณ

• ริมฝีปากบาง – เหมาะกับฟิลเลอร์ที่มีปริมาตรสูง เช่น Juvederm  Voluma, Restylane Kysse
• ริมฝีปากที่มีรอยย่น – เหมาะกับฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เช่น Belotero Balance, Juvederm Volbella
• ขอบริมฝีปากไม่ชัด – เหมาะกับฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวปานกลาง เช่น Restylane Refine

2. ผลลัพธ์ที่ต้องการ

• เน้นความอวบอิ่ม – ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีการอุ้มน้ำสูง เช่น Juvederm Voluma
• เน้นความเป็นธรรมชาติ – ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง เช่น Restylane Kysse
• แก้ไขรูปทรง – ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวดี เช่น Definisse Restore

3. งบประมาณ

• งบประมาณสูง – แบรนด์จากยุโรปและอเมริกา เช่น Juvederm, Restylane, Belotero
• งบประมาณปานกลาง – แบรนด์จากเอเชียคุณภาพดี เช่น Neuramis
• งบประมาณจำกัด – แบรนด์จากเอเชียราคาประหยัด เช่น FLORE, e.p.t.q.

4. ความอ่อนไหวของผิว

• ผิวแพ้ง่าย – ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีความบริสุทธิ์สูง เช่น Belotero
• ผิวหนา ผิวมัน – สามารถใช้ฟิลเลอร์ที่มีความหนืดสูงกว่า เช่น Juvederm Voluma, Restylane Kysse
• ข้อควรระวังในการเลือกฟิลเลอร์ปาก

ในการตัดสินใจเลือก ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ควรคำนึงถึงข้อควรระวังต่อไปนี้

• เลือกฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. – ต้องเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเท่านั้น
• หลีกเลี่ยงฟิลเลอร์ถาวร – เช่น ซิลิโคนเหลว เพราะหากเกิดปัญหาจะแก้ไขได้ยาก
• เลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ – แพทย์ควรมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ปากโดยเฉพาะ
• ตรวจสอบวันหมดอายุ – ฟิลเลอร์ต้องไม่หมดอายุและบรรจุในซองที่ไม่ถูกเปิดมาก่อน
• แจ้งประวัติการแพ้ – หากมีประวัติแพ้ยาหรือสารใดๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีด

สรุป

ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคลและงบประมาณ สำหรับผู้ที่ต้องการฟิลเลอร์ปากที่ให้ผลลัพธ์เเหมาะสมกับตัวเอง อยู่ได้นาน และมีความปลอดภัยสูง Juvederm และ Restylane Kysse เป็นตัวเลือกที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด สำหรับผู้ที่คำนึงถึงความคุ้มค่า YVOIRE และ Neuramis เป็นทางเลือกที่ดีเพราะให้ผลลัพธ์ที่ดีในราคาที่ย่อมเยากว่าแบรนด์จากยุโรปและอเมริกา

การตัดสินใจเลือกฟิลเลอร์ปากควรปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญ ซึ่งจะประเมินสภาพริมฝีปาก ความต้องการ และแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ