ฟิลเลอร์ปาก ช่วยเพิ่มมิติให้รูปทรงของปาก ดูสวยละมุนอย่างปลอดภัย
เทรนด์ความงามสำหรับสาว ๆ จะพลาดทรงปากไปไม่ได้ จึงทำให้การฉีด ฟิลเลอร์ปาก ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะการเติมสาร HA จะเข้าไปเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม เป็นทรงมากยิ่งขึ้น จะฉีดทรงไหนก็ไม่ต้องห่วง ทั้งแบบสาวเกาหลี สายฝอ หรือแบบธรรมดาและดูแพง การฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยได้
การฉีด ฟิลเลอร์ปาก คือ การปรับรูปทรงของริมฝีปาก โดยใช้ฟิลเลอร์ประเภท HA หรือ Hyaluronic Acid เข้าไปเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม ซึ่งตัวของฟิลเลอร์มีคุณสมบัติอุ้มน้ำจะเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยบนริมฝีปากที่เป็นร่องลึก แห้ง ฟิลเลอร์จะทำให้ริมฝีปากที่เป็นปัญหาของเราดูดีมากขึ้น ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
หลังจากการปรับรูปปากให้มีมิติ และดูดีขึ้นจะทำให้เวลายิ้มมีความมั่นใจมากขึ้น สามารถทำให้ลักษณะการยิ้มของเราเปลี่ยนแปลงไปได้ มีเสน่ห์ดึงดูดสายตามากยิ่งขึ้น ถ้าริมฝีปากดูอวบอิ่ม แลดูสุขภาพดีอีกด้วย
ปัญหาริมฝีปากบาง ไม่สวย อายุที่เพิ่มมากขึ้นก็มีส่วน เพราะเนื้อริมฝีปากจะเริ่มบางลง คอลลาเจนมีการสร้างได้น้อยลง อยากทราบว่าการฉีดฟิลเลอร์เหมาะกับใครบ้าง มีรายละเอียดดังนี้
- สำหรับคนที่ต้องการปรับทรงรูปปากให้เข้ากับรูปหน้ามากขึ้น
- สำหรับผู้ที่มีริมฝีปากบางจะทำให้ความมีเสน่ห์ น่าดึงดูดลดน้อยลง
- ผู้ที่ปากแห้งและแตก เป็นร่องชัดจะเกิดปัญหาเวลาที่ทาลิปสติก
- ผู้ที่ริมฝีปากขาดคอลลาเจน ปากไม่อิ่มเอิบ เห็นริ้วรอยได้ชัดเจน
ปากเป็นตำแหน่งที่เราใช้งานบ่อย จึงเป็นพื้นผิวมีการขยับบ่อย ดังนั้น ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีด ฟิลเลอร์ปาก ควรมีโมเลกุลเล็กและมีความยืดหยุ่นสูง ไม่เป็นก้อน เพื่อคงความเรียบเนียนแบบธรรมชาติ และฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ฉีดฟิลเลอร์ปาก มีดังนี้
- Juvederm volift (อายุฟิลเลอร์ 12 เดือนหรือ 1 ปี) ทำให้ปากดูสวยธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน
- Restylane volyme โมเลกุลคล้ายกับ Juvederm volift แต่อยู่ได้นานกว่าถึง 18 เดือน
- Restylane vital light เน้นในเรื่องเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับปาก แก้ไขริมฝีปากแห้ง โดยที่ไม่ได้ต้องการปรับรูปทรงของปาก อยู่ได้ 4-6 เดือน
- Juvederm volite คุณสมบัติคล้ายกับ Restylane vital light แต่อยู่ได้นานกว่าถึง 6-8 เดือน
- Juvederm ultraplus ตัวโมเลกุลจะมีความฟูและอุ้มน้ำเยอะตามเทคโนโลยีการผลิตฟิลเลอร์ เหมาะกับคนที่ต้องการปากอวบอิ่มแบบสายฝอ และอยู่ได้นานถึง 1 ปี แต่ในช่วง 4-6 เดือนแรกจะรู้สึกถึงเจลนิ่มนุ่มที่ฉีดไป
- Restylane classic เนื้อโมเลกุลจะค่อนข้างแน่นสร้างรูปทรง ฟิลเลอร์รุ่นนี้สามารถอยู่ได้นานถึง 12 เดือนหรือ 1 ปี
- Restylane Kysse *New ผลิตภัณฑ์สำหรับปากตัวใหม่ล่าสุด เป็นสารเติมเต็มระดับพรีเมี่ยมจากประเทศสวีเดน พัฒนาขึ้นเพื่อปรับรูปปากโดยเฉพาะ กับเทคโนโลยีผสมผสาน Optimum Balance Technology (OBT) อยู่ได้นานถึง 1 ปี ช่วยเติมเต็มริมฝีปากให้ดูสุขภาพดี ดูชุ่มชื้นมากขึ้น
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ปาก
สำหรับโครงหน้าของชาวเอเชีย โดยเฉพาะแบบคนไทย ส่วนใหญ่แล้วจะไม่รับกับริมฝีปากแบบตะวันตก ดังนั้น ควรใช้ตัวอย่างริมฝีปากที่เป็นเอเชียนิยม เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และมีโครงหน้ารวมในจุดอื่น ๆ ใกล้เคียงกับตัวผู้เข้ารับบริการเองด้วย ผลที่ได้จึงจะออกมาดูเป็นธรรมชาติที่สุด ความเหมาะสมของริมฝีปากต้องไม่หนามากเกินไป
โดยหลักการ แพทย์ก็จะทำการประเมิน และคำนวณสัดส่วนฟิลเลอร์ปาก ให้รับกับจุดอื่น ๆ บนใบหน้าของผู้เข้ารับบริการ ดังนี้
- อัตราส่วนของริมฝีปาก บน:ล่าง ที่เหมาะสมคือ 1:1.68 ซึ่งถือเป็นสัดส่วนทองคำ ของใบหน้าและริมฝีปาก ซึ่งเป็นหลักการสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปากที่สำคัญ
- เนื้อของริมฝีปากล่าง ไม่ควรใหญ่กว่าขอบเขตของยอดตัว M ของริมฝีปากบน
- เมื่อมองด้านข้างแล้วลากเส้นจากปลายจมูกลงมาที่คาง ริมฝีปากล่างควรจะแตะเส้นนี้พอดี ส่วนริมฝีปากบนควรจะห่างจากเส้นนี้ 2 มิลลิเมตร เป็นการประเมินที่ดูมิติของริมฝีปาก ไม่ยื่นมากไปจนเกินงาม และไม่บางมากไป ทำให้ดูมีอายุ
- ขอบรอยต่อระหว่างริมฝีปากกับผิวปกติ ไม่มีริ้วรอย
- มุมปากควรยกขึ้น ไม่ทิ่มลงล่าง
- เนื้อปากควรอิ่มเรียบเนียน ไม่มีริ้วรอย
ฟิลเลอร์ปากกระจับ
การฉีด ฟิลเลอร์ปากกระจับ คือ รูปทรงปากทั้งส่วนบนบางกว่าส่วนล่าง ทำให้ได้รูปปากสวยรับกับใบหน้าพอดี โดยริมฝีปากจะมีความโค้งเรียวสวย คล้ายกับผลกระจับ ทำให้ริมฝีปากมีความอ่อนหวานละมุนและมีเสน่ห์มากขึ้น ช่วยสร้างความมั่นใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ฟิลเลอร์ปากสายฝอ
การฉีด ฟิลเลอร์ปากสายฝอ ได้กระแสความงามมาจากทางฝรั่งตะวันตก ซึ่งก็ได้รับความนิยมมากในแถบเอเชียเช่นกัน ลักสณะของรูปทรง คือ จะมีความอวบอิ่มฟู นุ่มฟู สวยเซ็กซี่แบบสไตล์ฝรั่ง การฉีดปากสายฝอจึงสามารถช่วยแก้ปัญหารูปทรงและยังช่วยแก้ปัญหาปากเป็นร่อง ปากแห้ง ให้ชุ่มชื้นขึ้นได้ และช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้าอีกด้วย
การศัลยกรรมปาก
หากใครต้องการผ่าตัดริมฝีปากที่อยู่ได้อย่างถาวร ศัลยกรรมจะตอบโจทย์มากกว่า เหมาะสำหรับคนที่มีริมฝีปากหนา อยากตัดเอาเนื้อริมฝีปากส่วนเกินออก แต่ถ้าหากเลือกทำศัลยกรรมปากกระจับให้มีริมฝีปากที่บางลงแล้ว ถ้าหากในอนาคตเราต้องการเพิ่มเนื้อปากจากเดิม ฟิลเลอร์ปากสามารถทำได้ แต่ถ้าหากต้องการทำศัลยกรรมเพิ่มเนื้อนั้นทำไม่ได้
ฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีด ฟิลเลอร์ปาก ออกแบบมาตอบโจทย์คนที่ต้องปรับรูปทรงโดยใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับคนที่มีริมฝีปากบาง ไม่หนามาก หลังทำสามารถเห็นผลได้ทันที ปลอดภัย 100% ไม่ต้องเจ็บตัวมากเหมือนการผ่าตัด และไม่มีรอยแผล สามารถเปลี่ยนรูปปากได้ตลอดเวลาตามเทรน หากฟิลเลอร์ยังสลายไม่หมด แต่ต้องการเปลี่ยนรูปทรงก็สามารถฉีดสลายได้ถ้าฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นฟิลเลอร์แท้
เช็คลิสท์สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก
สิ่งที่ควรพิจารณาในการฉีด ฟิลเลอร์ปาก เพื่อออกแบบรูปทรงให้เข้ากับใบหน้า มีดังนี้
- สัดส่วนที่เหมาะสมระหว่างริมผีปากบนและล่าง โดยทั่วไปสัดส่วนทองคำ (Golden ratio) ที่ได้สัดส่วนสวยงามที่สุดของริมฝีปาก คือ ริมฝีปากบนจะต้องหนาประมาณ 1 ส่วน ริมฝีปากล่างจะเป็น 1.6-1.8 ส่วน ตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับความยาวคางส่วนปลายของผู้เข้ารับบริการด้วย
- ดูรูปปากเทียบสัดส่วนกับส่วนอื่น ๆ บนใบหน้า จะช่วยวิเคราะห์ได้ว่ารูปหน้าแบบไหน เหมาะกับรูปทรงปากมากที่สุด
- ปากมีความสมมาตรหรือไม่ ถ้าปากเบี้ยว มุมปากตก ปากไม่เท่ากัน สามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ปากมีความสมส่วน สมดุลได้รูปมากขึ้น
ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีดังนี้
- ควรแจ้งประวัติการใช้ยาหรือโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบก่อนฉีด
- หากมีโรคประจำตัว หรือตั้งครรภ์ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบทุกครั้ง
- เลี่ยงการใช้สมุนไพร เช่น น้ำมันตับปลา แปะก๊วย โสม เป็นต้น
- งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีดประมาณ 24 ชั่วโมง เนื่องจากแอลกอฮอล์จะทำให้เลือดแข็งตัวยาก จะส่งผลหลังการฉีด อาจเกิดอาการช้ำได้
- หลีกเลี่ยงอาหารเสริมหรือยาบางชนิด จะดีที่สุดหากสามารถหลีกเลี่ยงยาที่มีผลต่อการทำให้เกิดเลือดแข็งตัว อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น ยาแก้ปวด กลุ่ม NSAIDs, แอสไพริน (aspirin) และ ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen)
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมเยอะ 2-3 วันก่อนฉีด เนื่องจากอาหารที่มีรสชาติเค็มจะทำให้อาการน้ำคั่ง ส่งผลให้ร่างกายมีโอกาสบวมมากขึ้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ดูแลตัวเองอย่างไร
อยากให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น ต้องปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ปากตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด มีดังนี้
- กลับพักฟื้นที่บ้านควรประคบเย็นเบา ๆ บริเวณที่ฉีดครั้งละ 10 นาที ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง หากมีบริเวณที่ช้ำ
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อความชุ่มชื้นและให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปอุ้มน้ำและฟูขึ้น
- สามารถรับประทานยาได้หากมีปวดในบริเวณที่ฉีด แพทย์แนะนำกลุ่มยาแก้ปวด พาราเซตามอล
- งดแอลกอฮอล์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- งดแต่งหน้าหรือใช้ครีมบำรุงทุกชนิด เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- งดการออกกำลังกาย หรือทำกิจจกรรมที่สร้างความร้อนให้แก่ร่างกาย เช่น การซาวน่า เลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- งดกดนวดบริเวณที่ทำการรักษา อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
บริเวณริมฝีปาก ประกอบด้วยเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กจำนวนมาก จึงต้องระมัดระวังในเรื่องของความปลอดภัยมากเป็นพิเศษ เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ฉะนั้นการฉีดฟิลเลอร์ จำเป็นต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ต้องเชี่ยวชาญในเรื่องกายวิภาค รู้จักเส้นเลือดต่าง ๆ บนใบหน้า และการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ไม่ควรใช้ฟิลเลอร์ปลอม เพราะอาจจะก่อให้เกิดอันตรายอย่างฟิลเลอร์อุดตันในเส้นเลือด เนื้อตายและตาบอดได้ หากฉีดฟิลเลอร์แท้จะไม่เกิดสารตกค้างอย่างแน่นอน
สำหรับกรณีที่คนไข้ที่เคยผ่านการผ่าตัดริมฝีปากมากก่อน แล้วต้องการฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรแจ้งแพทย์ก่อนเสมอว่าเคยผ่านการผ่าตัดมาแล้ว หลังจากนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่ทำการรักษาด้วย
ผลข้างเคียงของการฟิลเลอร์ปาก จะมีเพียงรอยเขียวช้ำบริเวณฉีดเล็กน้อย แต่จะค่อย ๆ จางลงภายใน 1 สัปดาห์ ดังนั้นช่วงแรก สามารถทาแป้ง, Concealer หรือ รองพื้นปกปิดบริเวณที่เขียวช้ำ หรือรอยแดงจากเข็มไว้ก่อนได้ โดยไม่มีอันตราย
- หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วงแรกอาจคลำพบก้อนเล็ก ๆ แข็งเหมือนยางลบใต้ผิวหนังบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะละลายตัวและนิ่มเป็นเนื้อเดียวกันเองภายใน 2-4 สัปดาห์
- อาจมีการปวดตึงบริเวณที่ฉีด สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการประคบเย็นหรือทานยาแก้ปวด ลดบวมตามคำแนะนำแพทย์ได้
- หลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก 3-4 ชม. แรก ถ้ามีการปวดตื้อ ๆ อยู่สามารถนวดโดยการเม้มปาก และประคบเย็นได้ จะช่วยให้อาการตึงดีขึ้น
- นัดพบแพทย์หลังการรักษาด้วยการฉีด ฟิลเลอร์ปาก ในช่วง 7 วัน ถึง 4 สัปดาห์
- กรณีอาการปวดบวมแดงมากผิดปกติ หรือสีผิวหนังบริเวณที่ฉีดเปลี่ยนไปเป็นสีซีด เป็นสีน้ำตาล หรือดำ ควรรีบไปแจ้งแพทย์ที่ทำการรักษาทันที
ฟิลเลอร์ปลอม คือ สารที่ใช้ในการมาเลียนแบบฟิลเลอร์ มีหลากหลายประเภท เช่น ซิลิโคนเหลว ไบโอพลาสติก พาราฟิน ซึ่งเป็นสารโพลิเมอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสิ่งของที่ทำมาจากพลาสติก หากเข้าสู่ร่างกายของเราก็จะไม่สามารถดูดซึมได้
หากได้รับสารเหล่านี้เข้าไป ร่างกายจะเกิดการต่อต้านสารแปลกปลอม ทำให้เกิดอาการแพ้ ในระยะแรกร่างกายรู้สึกเหมือนปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปร่างกายจะจับได้ว่ามีสารแปลกปลอมเข้ามา เพราะฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถสลายเองได้ โดยเริ่มจับเป็นก้อน โดยอาการหลัก ๆ เมื่อฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าไป มีดังนี้
- เกิดการอุดตันในเส้นเลือด อาจส่งผลให้ตาบอดได้
- ผิวไม่เรียบเนียน ขรุขระ เหมือนมีก้อนแข็ง ๆ บริเวณที่ฉีดผิวหนังแพ้ เป็นผื่นแดง เขียวช้ำ จ้ำเลือด อาจมีอาการคันด้วย
- มีการเคลื่อนตัวจากตำแหน่งที่ฉีดเดิมไปตำแหน่งอื่น เช่น ฉีดคางแต่ไหลไปสุดปลายคาง
สรุปฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการที่นิยมให้ความสนใจเป็นอย่างมากในกลุ่มสาว ๆ เพราะช่วยในเรื่องของการปรับรูปทรงของปาก และแก้ปัญหาปากหลายอย่าง เหมาะสำหรับคนที่ต้องเปลี่ยนรูปทรงปากแบบทันใจ ไม่เจ็บตัว เมื่อเทียบกับการศัลยกรรม