ปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ ใต้ตาลึก ตาโหล ขอบตาดำไม่สดชื่น แก้ไขได้ด้วยการฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา โดยการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เข้าบริเวณใต้ตาที่มีปัญหา ช่วยลดปัญหารอยคล้ำรอบดวงตา เติมเต็มตาลึกโบ๋ ปรับรูปหน้าให้ดูสดชื่น ช่วยเสริมความมั่นใจ ไม่ดูเหมือนแพนด้า
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้สารพัดปัญหาใต้ตาด้วยวิธีที่ปลอดภัย
ทำความรู้จักฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเติมสารเติมเต็มกลุ่ม “ไฮยาลูรอนิค แอซิด” (Hyaluronic Acid) หรือที่หลายคนคุ้นเคย ก็คือ HA นั่นเอง ซึ่งตัวยาถูกสร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบสารธรรมชาติ สามารถสลายเองได้ 100% โดยฟิลเลอร์จะฉีดเข้าบริเวณใต้ตาที่มีปัญหา หรือ บริเวณกระดูกใต้ตาที่ยุบตัวลง เป็นเหตุทำให้เนื้อบริเวณใต้ตานั้น คล้อยลง ทำให้ใบหน้าดูโทรม อ่อนล้าและดูมีอายุ
และด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่มีความอุ้มน้ำ การฉีดสารเติมเต็มจึงสามารถทำให้ใต้ตาดูตื้นขึ้น และรอยคล้ำก็ดูจางลง ใบหน้ากลับมาสดใส ดูมีชีวิตชีวาขึ้น
ปัญหาใต้ตาคล้ำลึก ดูไม่สดชื่น สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน มีทั้งที่เกิดจากสิ่งที่เราก่อและไม่ได้ก่อ มีดังนี้
1. พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดรอยคล้ำใต้ตา
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้รอบดวงตามีความคล้ำ ดูไม่สดชื่น ซึ่งคนที่พักผ่อนน้อยก็จะมีปัญหาเรื่องตาบวมตามมา
- การรับประทานอาหารที่มีรสจัดมากเกินไป เป็นอีกสาเหตุให้ใต้ตาคล้ำ
- ความเครียด เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ขอบตาดำ เพราะความเครียดสะสมหรือความเครียดเรื้อรังอาจส่งผลให้มีปัญหาในการนอนหลับ ทำให้ผิวซีดจางและดวงตาบุ๋มลึก เห็นรอยคล้ำใต้ตาได้ชัดเจน
2. ใต้ตาคล้ำจากโรคภูมิแพ้
รอยหมองคล้ำใต้ตาที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ ส่งผลให้ระบบการไหลเวียนเลือดนั้นติดขัด เมื่อจมูกบวม ก็จะส่งผลให้เกิดการปิดกั้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดคั่งอยู่บริเวณใต้ตา และผู้ป่วยโรคภูมิแพ้มักจะมีอาการคัน ระคายเคืองบริเวณรอบดวงตา ทำให้ต้องขยี้ตาเป็นประจำ จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ตาดูดำและคล้ำ
3. อายุที่เพิ่มมากขึ้น
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ไขมันที่อยู่ในบริเวณหน้าแก้มและบริเวณใต้ตา จะเริ่มหายไป กระดูกเริ่มเกิดการทรุดตัวลง ทำให้เห็นร่องลึกชัดเจนว่า จนดูตาโหล ตาดำ
4. ลักษณะทางพันธุกรรม
ลักษณะทางพันธุกรรมเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุตาดำ ตาโบ๋ ตาโหล เนื่องมาจากลักษณะโครงหน้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน พันธุกรรมที่พบบ่อย คือ คนที่มีโครงหน้าแขก เกิดจาก โครงสร้างของกะโหลก เบ้าตาลึก ทำให้ดูแล้วใต้ตาดำคล้ำ
- คนที่มีปัญหารอยคล้ำใต้ตา ที่เป็นสาเหตุให้ใบหน้าดูไม่สดใส
- คนที่มีปัญหากระดูกบริเวณใต้ตาที่ยุบตัวลง จากอายุที่มากขึ้น
- คนที่มีปัญหาใต้ตาที่เกิดลักษณะทางพันธุกรรม เป็นสาเหตุตาโหล ตาดำ
- คนที่ต้องการรักษาใต้ตาแบบเร่งด่วน ไม่อยากรอนาน
- คนที่กลัวการผ่าตัด ไม่อยากพักฟื้น
ประโยชน์ของการฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา นอกจากเติมเต็มใต้ตา ยังช่วยเรื่องอื่น ๆ ดังนี้
- ช่วยแก้ปัญหา ริ้วรอยใต้ตา หรือรอยตีนกา สาเหตุที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ
- ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย เพราะการมีถุงใต้ตา ทำให้ริ้วรอยและร่องใต้ตาเห็นได้ชัด
- ช่วยแก้ปัญหาขอบตาดำ ใต้ตาที่หมองคล้ำบริเวณรอบดวงตา ใบหน้าดูเหนื่อย อ่อนล้า เหมือนคนไม่ได้นอน
- ช่วยแก้ปัญหาเบ้าตาลึก ตาโหล ที่เกิดจากอายุที่เพิ่มเขึ้น และการยุบตัวของกระดูกใต้ตา
ปัญหาทั่วไป การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์อยู่ที่ 1-3 CC. (แล้วแต่ปัญหาของแต่ละบุคคล) หากคนไข้อายุ 50 ปีขึ้นไป กระดูกเกิดการทรุดลงเยอะ หรือมีปัญหาใต้ตาลึกมาก ๆ จากการยุบตัวของกระดูกเบ้าตา อาจจะต้องใช้ฟิลเลอร์ 4 CC.หรือมากกว่านั้น
โดยปกติแล้วฟิลเลอร์ใต้ตาที่หมอเลือกใช้ มี ดังนี้
Juvederm
- Voluma filler เหมาะสำหรับการฉีดใต้ตา เมื่อนำมาใช้ฉีดใต้ตาก็ดูสวยเป็นธรรมชาติ ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
- Volite filler ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะกับฉีดในผิวชั้นตื้น เช่น ใต้ตา และช่วยบำรุงผิว (Skin booster) ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว มีความเป็นธรรมชาติสูง
Restylane
- Restylane Vital light เหมาะสำหรับการแก้ไขบริเวณ หลุมสิว รอยคล้ำใต้ตา หรือบริเวณที่ต้องการความชุ่มชื้นเป็นหลัก
- Restylane Lyft ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ฉีดแล้วไม่ฟู สามารถคงรูปได้ดีที่สุด นิยมนำมาเติมเต็มแก้ไขในจุดใต้ตา คาง และจมูก
- Restylane classic เหมาะสำหรับการรักษาตำแหน่ง Midface เติมเต็มแก้มส้ม ร่องแก้ม ร่องพับมุมปาก ร่องพับคาง และใต้ตา
- Restylane Vital เหมาะในการปรับความชุ่มชื้นของผิว แก้ไขปัญหา ริ้วรอย ร่องลึก ตื้น ๆ ได้เป็นอย่างดี สำหรับตำแหน่งที่นิยมในการเติมเต็มจะเป็นบริเวณหน้าผาก ใต้ตา และบริเวณที่ต้องการความฉ่ำวาวให้ผิว
Belotero
- Belotero Soft (กล่องสีเหลือง) นิยมใช้สำหรับในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดรอยคล้ำบริเวณใต้ตา เพิ่มความกระจ่างใส
- Belotero Balance (กล่องสีส้ม) นิยมใช้สำหรับบริเวณใต้ตา เพิ่มความกระจ่างใส เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน
อาการข้างเคียงปกติหลังจากการฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันเล็กน้อยในจุดที่ทำการฉีดเป็นปกติ หมอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการแกะ การเกา การกดนวดในจุดนั้น ๆ และอาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หาก 3 วัน อาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้พบแพทย์คลินิกที่ได้ทำการรักษา เพื่อประเมินที่วิเคราะห์ถึงความผิดปกติ
ระยะเวลาของการฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา จะอยู่ได้นาน 12 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ โดยมาตรฐานของฟิลเลอร์ จะขึ้นกับปริมาณความเข้มข้นของไฮยาลูรอนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid ) และเทคโนโลยีการผลิตของแต่ละยี่ห้อ ทั้งนี้แต่ละยี่ห้อที่จะได้รับการอนุญาตให้ใช้ยาได้ ต้องได้รับมาตรฐานการรับรองจากองค์การอาหารและยา เนื่องจากฟิลเลอร์ เป็นสารที่เลียนแบบสารที่มีตามธรรมชาติ สามารถย่อยสลายได้เอง 100% ตามกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกายโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแน่นอนค่ะ
อ่านเพิ่มเติม : ดูยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย.ไทย
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
สิ่งสำคัญสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ ก่อนฉีดควรรู้ มีดังนี้
- งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีด 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงอาหารเสริมหรือยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวด กลุ่ม NSAIDs, แอสไพริน (aspirin) และ ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- เลี่ยงการใช้สมุนไพร เช่น น้ำมันตับปลา แปะก๊วย โสม เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัด 2-3 วันก่อนฉีด เพราะจะทำให้ใต้ตามีโอกาสบวมมากขึ้น
- แจ้งประวัติการใช้ยาหรือโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนฉีด
- หากมีโรคประจำตัว หรือตั้งครรภ์ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบทุกครั้ง
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
สิ่งสำคัญสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดต้องควรระวัง เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีดังนี้
- หลังฉีดหากมีบริเวณที่ช้ำ ให้ประคบเย็นเบา ๆ บริเวณที่ฉีดครั้งละ 10 นาที ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- งดกดนวดบริเวณใต้ตา อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- งดการออกกำลังกาย หรือทำกิจจกรรมที่สร้างความร้อนให้แก่ร่างกาย เช่น การซาวน่า เลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- งดดื่มแอลกอฮอล์หลังฉีด 24 ชั่วโมง ดีที่สุดอย่างน้อย 3 วัน
- งดการแต่งหน้าหรือใช้ครีมบำรุงทุกชนิด เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- สามารถล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ และหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนน้ำ เกิน 15 นาที
- ควรดื่มน้ำสะอาดให้เยอะ ๆ
- หากมีอาการปวด สามารถรับประทานยากลุ่มยาแก้ปวด พาราเซตามอล หรือยาที่แพทย์แนะนำให้ครบ เพื่อลดการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงอาหารดิบ อาหารหมักดอง
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ช่วยเติมเต็มใต้ตาให้ดูตื้นขึ้น สดใส และกระจ่างใส
- เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
- ฟิลเลอร์สามารถสลายเองได้ 100% ปลอดภัย
- ฉีดแล้ว หากต้องการแก้ไขสามารถฉีดสลายได้
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ตัวยาฟิลเลอร์ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร
- ฟิลเลอร์มีราคาที่ค่อนข้างสูง ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก
- หลังฉีดมีอาการบวมช้ำ
- ต้องพึงระวังในเรื่อง ฟิลเลอร์ปลอม เพราะอาจะก่อให้เกิดอันตรายได้
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์แท้ เช็กอย่างไรดี
ในบริเวณใต้ตา เป็นบริเวณที่ค่อนข้างเสี่ยงสูง เนื่องจากใต้ตาเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดอยู่เยอะ จึงต้องมีความระมัดระวังอย่างมาก แต่ใช่ว่าจะมีโอกาสเกิดกันได้ง่าย ๆ ดังนั้น ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใดก็ตาม จำเป็นต้องเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์จริง ๆ มีความชำนาญในด้านของกายวิภาค ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอดได้
ปรับโหงวเฮ้งด้วย ฟิลเลอร์ใต้ตา
โหงวเฮ้งใต้ตา (หน่ำหนึงเก็ง) หากใต้ตาเต็มอิ่ม สดใส เรียบเนียน เปล่งปลั่ง หมายถึง โชคลาภ ความสบายและการมียศศักดิ์ สามารถแก้ไขได้ด้วยการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาเบ้าตาลึก ใต้ตาคล้ำ ให้ใต้ตาดูตื้น อิ่มเต็ม ใบหน้าโดยรวมดูสดชื่น และดูอ่อนกว่าวัย
อ่านเพิ่มเติม : โหงวเฮ้ง ปรับรูปหน้า
ถุงใต้ตา (Eye bags) จะมีลักษณะเหมือนถุงหรืออาการบวมบริเวณใต้ตา เกิดพร้อมกับริ้วรอยใต้ตา รอยคล้ำใต้ ส่งผลให้ใบหน้าดูอิดโรย เหนื่อยไม่มีแรง ใบหน้าหมองคล้ำ และใบหน้าดูมีอายุ
ฉีดถุงใต้ตา ดีอย่างไร
- จะช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิวหนังรอบดวงตาใต้ตาที่บวม
- ลดริ้วรอย รอยคล้ำต่าง ๆ บริเวณขอบตา สาเหตุของความอิดโรย หมองคล้ำ และดูมีอายุ
- ช่วยปรับผิวใต้ตาให้เรียบเนียน ไม่เป็นก้อนและดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
การฉีดเติมดอลลี่อาย (Dolly Eyes) เป็นการทำในส่วนของ “ขอบตาล่าง” ให้ดูหนาขึ้น เหมาะกับคนที่อยากปรับดวงตาให้ดูน่ารักสไตล์เกาหลี ทำให้ดวงตาดูกลมโต สดใส และดูโดดเด่น หลังจากทำแล้วใบหน้าโดยรวมจะดูหวานขึ้น และดูหน้าเด็กลง
วิธีการแก้ไขปัญหาใต้ตา ใต้ตาลึก โบ๋ ดูไม่สดชื่น มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน ดังนี้
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- บำรุงรอบตาด้วยสูตรมาส์กตา
- ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตา ที่มีส่วนผสมของ Whitening ช่วยให้รอยดำคล้ำใต้ตาจางลงได้
- การฉีดด้วยไขมัน (Fat Transfer)
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา วิธีแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำและขอบตาดำ ได้เห็นผลและตรงจุดที่สุด
สรุปฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
สำหรับการฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อความปลอดภัย จำเป็นที่ต้องตรวจสอบความเหมาะสมของฟิลเลอร์ที่ทำการรักษา แพทย์ที่ทำการรักษาต้องเชี่ยวชาญ และประเมินผลการรักษาได้อย่างตรงจุด เลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลในการรักษาที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังฉีดออกมาดี และผู้เข้ารับบริการพึงพอใจที่สุด