ฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี เป็นคำถามยอดฮิตสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาขมับตอบ ซึ่งทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย การฉีดฟิลเลอร์ขมับได้รับความนิยมเพราะไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลทันที และพักฟื้นน้อย การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมสำคัญมาก เพราะขมับมีหลอดเลือดและเส้นประสาทสำคัญที่ต้องการฟิลเลอร์คุณสมบัติเฉพาะเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
บทความนี้จะแนะนำฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อต่างๆ จากทั่วโลก พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย เทคโนโลยีการผลิต และราคา เพื่อให้ผู้เริ่มต้นและผู้ที่มีประสบการณ์สามารถเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะกับความต้องการและงบประมาณ
สารบัญ
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาขมับตอบ
ขมับเป็นบริเวณด้านข้างของใบหน้าเหนือโหนกแก้ม เป็นจุดที่มีความซับซ้อนประกอบด้วยเนื้อเยื่อหลายชั้น (8-10 ชั้น) และมีเส้นเลือดสำคัญหลายเส้นอยู่ใต้ผิวหนัง ปัญหาขมับตอบหรือขมับแบนเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่
สาเหตุของขมับตอบ
- อายุที่เพิ่มขึ้น: เมื่ออายุมากขึ้น ไขมันใต้ผิวหนังบริเวณขมับจะลดลง ทำให้ขมับตอบหรือแบนลง
- พันธุกรรม: บางคนมีโครงสร้างกระดูกขมับแบนหรือตอบตามพันธุกรรม
- น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว: การลดน้ำหนักเร็วเกินไปทำให้ไขมันใต้ผิวหนังลดลง รวมถึงบริเวณขมับ
- การออกกำลังกายหนัก: นักวิ่งมาราธอนหรือนักกีฬาที่มีไขมันต่ำมักมีปัญหาขมับตอบ
- โรคบางชนิด: เช่น โรคลูปัส หรือโรคระบบภูมิคุ้มกันบางชนิด
ลักษณะปัญหาของขมับตอบ
- ขมับตอบจากกระดูกบางลงตามอายุ
- ขมับเป็นแอ่งเนื่องจากโครงสร้างกระดูก
- ชั้นไขมันบริเวณขมับบางลงหรือขาดออกจากกัน
- ผิวฝ่อลงจากการขาดไฮยาลูโรนิค แอซิด
ผลกระทบของขมับตอบต่อใบหน้า
- ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าอายุจริง
- ใบหน้าดูผอมหรือไม่มีสุขภาพดี
- รูปหน้าเปลี่ยนไป ขาดความสมดุล
- ขาดความอ่อนเยาว์และมิติของใบหน้า
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ขมับ รวมทุกเรื่องต้องรู้ก่อนฉีด ฉีดแล้วอันตรายจริงหรือ
การพิจารณาว่าฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี ต้องเข้าใจก่อนว่าฟิลเลอร์ที่เหมาะกับบริเวณขมับควรมีคุณสมบัติอย่างไร
คุณสมบัติที่ต้องการของฟิลเลอร์ขมับ
- ความเข้มข้นสูง (High G Prime): ควรมีความหนืดและความยืดหยุ่นสูง เพื่อให้สามารถเติมเต็มและคงรูปได้ดี
- ความสามารถในการยกกระชับ (Lifting Capacity): สามารถเติมเต็มพื้นที่ที่ตอบลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ความคงตัวดี (Stability): ไม่เคลื่อนตัวง่ายเมื่อฉีดเข้าไปแล้ว
- การกระจายตัวน้อย (Low Spreadability): ไม่แพร่กระจายไปยังบริเวณอื่นๆ นอกจุดที่ต้องการ
- ระยะเวลาคงอยู่นาน (Longevity): อยู่ได้นานอย่างน้อย 12 เดือนขึ้นไป
- เป็นเนื้อแข็งปานกลางถึงแข็ง: ช่วยให้ขึ้นทรงได้ดี
- ทนต่อการขยับได้ดี: เหมาะกับบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
เมื่อพิจารณาว่าฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี มีตัวเลือกยอดนิยมจากทั่วโลกที่ควรพิจารณา
ฟิลเลอร์จากสหรัฐอเมริกาและยุโรป (พรีเมียม)
1.Juvederm (สหรัฐอเมริกา)
คุณสมบัติเด่น: ฟิลเลอร์คุณภาพสูงจากบริษัท Allergan มีเทคโนโลยีการผลิตเป็นเอกสิทธิ์ของแบรนด์
- Hylacross Technology: เด่นด้านความยืดหยุ่นสูง
- Vycross Technology: โมเลกุลยึดเกาะกันแน่น ทนต่อการขยับได้ดี
รุ่นที่เหมาะกับขมับ
- Juvederm Ultra Plus (12 เดือน): เนื้อนิ่ม ฟูมาก เติมขมับตอบให้ดูอวบอิ่ม
- Juvederm Voluma (18-24 เดือน): เนื้อทน ยืดหยุ่นสูง ฟูปานกลาง ให้ผลเป็นธรรมชาติ
- Juvederm Volux (18-24 เดือน): เนื้อทน แข็ง คงตัวสูง เหมาะกับขมับที่ยุบลึก
ราคา: 12,900-14,000 บาท/CC
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาวที่ดูเป็นธรรมชาติ มีขมับตอบปานกลางถึงมาก
2.Restylane (สวีเดน)
คุณสมบัติเด่น: ฟิลเลอร์จากบริษัท Galderma ประเทศสวีเดน เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตมายาวนานที่สุดในโลก มี 2 เทคโนโลยีหลัก
- NASHA Technology: ความคงตัวสูง
- OBT Technology: ความยืดหยุ่น ปั้นแต่งทรงได้หลากหลาย
รุ่นที่เหมาะกับขมับ
- Restylane Volyme (18 เดือน): เนื้อนิ่ม เหมาะกับผิวบาง ขมับตอบลึก
- Restylane Lyft (12 เดือน): เนื้อแข็ง ขึ้นทรงดี ยกกระชับได้ดี
- Restylane Defyne (12-18 เดือน): เนื้อแข็งกลืนกับผิวได้ไว เหมาะกับผิวบาง
ราคา: 10,900-14,000 บาท/CC
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการแก้ไขขมับตอบในระดับปานกลาง และมีงบประมาณจำกัดกว่า Juvederm
3.Belotero (เยอรมนี)
คุณสมบัติเด่น: ฟิลเลอร์ HA ที่มีเทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ทำให้กระจายตัวได้ดี
ระยะเวลาคงอยู่: 12-18 เดือน
ราคา: 15,000-18,000 บาท/CC
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีขมับตอบไม่มาก และต้องการผลลัพธ์ที่ดูนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์จากเกาหลี (ราคาย่อมเยา)
E.P.T.Q. (เกาหลี)
คุณสมบัติเด่น: ฟิลเลอร์จากเกาหลีที่มีความปลอดภัยสูง ผลิตตามมาตรฐาน European Pharmacopoeia ได้รับการรับรองจาก อย.ไทย อย.อเมริกา และ อย.เกาหลี
รุ่นที่เหมาะกับขมับ
E.P.T.Q. S300 (9 เดือน): เนื้อเจลแข็งปานกลาง เนื้อฟูมาก เหมาะกับขมับเว้าลึก
ราคา: 9,900 บาท/CC
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีขมับเว้าลึกและมีงบประมาณจำกัด
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ขมับราคา | เริ่มต้นเท่าไหร่? ยี่ห้อไหนดี ฉีดแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน
การฉีดฟิลเลอร์ขมับที่มีประสิทธิภาพไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเลือกฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดีเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีดและปริมาณที่เหมาะสมด้วย
ปริมาณฟิลเลอร์ตามระดับความรุนแรง
- ขมับตอบเล็กน้อย: 0.5-1 cc ต่อข้าง หรือ 1 CC สำหรับขมับทั้งสองข้าง
- ขมับตอบปานกลาง: 1-1.5 cc ต่อข้าง หรือ 2 CC (1 CC ต่อข้าง)
- ขมับตอบมาก/เว้าลึก: 1.5-2 cc ต่อข้าง หรือ 3-4 CC (1.5-2 CC ต่อข้าง)
โดยส่วนใหญ่แพทย์จะฉีดแบบค่อยเป็นค่อยไป และอาจนัดมาฉีดเพิ่มในครั้งถัดไปหากต้องการเพิ่มปริมาตรมากขึ้น
การพิจารณาว่าฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดีนั้น ไม่เพียงแต่จะต้องดูคุณสมบัติของฟิลเลอร์เท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ
ข้อควรระวัง
- อันตรายจากหลอดเลือด: บริเวณขมับมีหลอดเลือดสำคัญ เช่น superficial temporal artery ซึ่งหากฉีดโดนอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้
- การเลือกแพทย์: ควรเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ขมับโดยเฉพาะ
- ความเสี่ยงจากการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน: ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. เท่านั้น
ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย
- ฟิลเลอร์พรีเมียม (ยุโรป/อเมริกา): 10,900-16,000 บาท/CC
- ฟิลเลอร์เกาหลี: 7,000-8,000 บาท/CC
ทั้งนี้ ราคารวมจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่นที่เลือกใช้ ปริมาณที่ต้องการ และเทคนิคที่แพทย์ใช้ในการฉีด
การดูแลหลังการฉีด
- ประคบเย็น: เพื่อลดอาการบวมและรอยช้ำ
- หลีกเลี่ยงการนวดบริเวณที่ฉีด: อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดออกกำลังกายหนัก: 24-48 ชั่วโมงหลังการฉีด
- งดแอลกอฮอล์: 24 ชั่วโมงก่อนและหลังการฉีด
- สังเกตอาการผิดปกติ: เช่น ปวดรุนแรง บวมมาก ผิวเปลี่ยนสี
บทสรุป
ฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี” เป็นคำถามสำคัญสำหรับผู้ต้องการแก้ไขปัญหาขมับตอบ บทความนี้รวบรวมและเปรียบเทียบฟิลเลอร์ 7 แบรนด์ยอดนิยม ทั้งกลุ่มพรีเมียมจากสหรัฐฯ/ยุโรป อย่าง Juvederm, Restylane, Belotero และกลุ่มราคาประหยัดจากเกาหลีอย่าง E.P.T.Q พร้อมข้อมูลเรื่องเทคนิคการฉีด ปริมาณที่เหมาะสม และการดูแลหลังฉีด ช่วยให้คุณเลือกฟิลเลอร์ขมับที่เหมาะกับปัญหาและงบประมาณได้อย่างมั่นใจ