หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะกำหนดผลลัพธ์ความสวยงามและความยั่งยืนของฟิลเลอร์ การปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยลดอาการบวม ป้องกันภาวะแทรกซ้อน และทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่อย่างสมบูรณ์ บทความนี้รวบรวมคำแนะนำจากแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อให้คุณดูแลตัวเองได้อย่างมั่นใจ
สารบัญ
ทำไมการดูแลตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงสำคัญ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างถูกวิธีมีความสำคัญต่อผลลัพธ์ ดังนี้
1. ช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่และคงรูปสมบูรณ์
ในช่วง 14 วันแรกหลังฉีด ฟิลเลอร์ยังอยู่ในช่วงเซ็ตตัว การปฏิบัติตัวอย่างระมัดระวังจะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการและไม่เคลื่อนที่
2. ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน
การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงช่วยป้องกันการติดเชื้อ การอักเสบ หรือการเกิดฟิลเลอร์เป็นก้อน
3. ยืดอายุการใช้งานของฟิลเลอร์
การดูแลที่ดีจะช่วยให้ฟิลเลอร์สลายตัวช้าลง อยู่ได้นานขึ้นจาก 6-12 เดือน เป็น 12-18 เดือน
4. เร่งการฟื้นตัวและลดอาการบวม
การปฏิบัติตามคำแนะนำช่วยให้อาการบวมช้ำหายเร็ว กลับมาใช้ชีวิตปกติได้ไวขึ้น
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้สารพัดปัญหาใต้ตาด้วยวิธีที่ปลอดภัย
- ห้ามแตะ คลำ หรือนวดบริเวณใต้ตา
- งดการนอนคว่ำหรือนอนตะแคง
- งดซาวน่า อบไอน้ำ 14 วัน
- งดเลเซอร์หรือหัตถการที่ใช้ความร้อน 1 เดือน
- ไม่รับประทานอาหารร้อนจัด
- งดการออกกำลังกายหนัก
- งดการวิ่ง ยกน้ำหนัก หรือกิจกรรมที่ใช้แรงมาก
- งดแอลกอฮอล์และบุหรี่
1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- ดื่มน้ำอย่างน้อย 1.5-2 ลิตรต่อวัน
- เน้นน้ำอุ่นหรืออุณหภูมิห้อง
- ดื่มทีละน้อยแต่บ่อยๆ ตลอดทั้งวัน
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง
2. พักผ่อนให้เพียงพอ
- นอนหลับ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
- นอนหนุนหมอนสูง 30-45 องศา
- นอนหงายเท่านั้น ไม่นอนตะแคง
- ปิดไฟและหลีกเลี่ยงจอมือถือก่อนนอน
3. จำกัดการใช้สีหน้า
- หลีกเลี่ยงการยิ้มกว้างหรือหัวเราะมาก
- ไม่ขมวดคิ้วหรือทำหน้าเครียด
- พยายามผ่อนคลายกล้ามเนื้อหน้า
- ลดการพูดคุยในช่วง 2-3 วันแรก
4. ทายาตามแพทย์สั่ง
- ยาฆ่าเชื้อ: ทานครบโดส
- ยาลดบวม: ทานตามเวลา
- ยาแก้ปวด: ใช้เมื่อจำเป็น
- ครีมทา: ใช้ตามคำแนะนำของแพทย์
5. ประคบเย็นอย่างถูกวิธี
- ใช้ถุงน้ำแข็งห่อผ้านุ่ม
- ประคบครั้งละ 10 นาที
- พักอย่างน้อย 10-20 นาที
- ทำซ้ำ 3-4 ครั้งต่อวัน
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้กี่เดือน? อยากให้อยู่นานต้องรู้จักเลือกและดูแลอย่างไร
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังการฉีด
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงช่วงหลังทำ 7-14 วันแรก
1. อาหารรสจัด
- เผ็ดจัด: กระตุ้นการอักเสบ ทำให้บวมนาน
- เค็มจัด: ทำให้เกิดภาวะบวมน้ำ
- หวานจัด: กระตุ้นการอักเสบของผิว
- เปรี้ยวจัด: อาจทำให้ระคายเคือง
2. อาหารหมักดอง
- กิมจิ ผักดอง ปลาร้า
- มีเชื้อแบคทีเรียที่อาจกระตุ้นการอักเสบ
- เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
3. อาหารดิบหรือกึ่งสุกกึ่งดิบ
- ซูชิ ซาชิมิ ยำต่าง ๆ
- ลาบ ก้อย ส้มตำ
- อาจมีเชื้อโรคทำให้ติดเชื้อได้ง่าย
4. เครื่องดื่มต้องห้าม
- แอลกอฮอล์ทุกชนิด
- กาแฟเข้มข้น
- น้ำอัดลม
อาหารที่แนะนำหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
1. อาหารต้านการอักเสบ
- ปลาแซลมอน (โอเมก้า 3)
- ผักใบเขียว บรอกโคลี
- ข้าวกล้อง ธัญพืช
2. ผลไม้วิตามินซีสูง
- ส้ม ฝรั่ง มะละกอ
- ช่วยสร้างคอลลาเจน
- เร่งการหายของแผล
3. อาหารโปรตีนคุณภาพดี
- ไข่ต้ม เนื้อไก่ต้ม
- ถั่วเหลือง เต้าหู้
- ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
4. น้ำและเครื่องดื่มที่ดี
- น้ำเปล่าอุณหภูมิห้อง
- น้ำมะพร้าว
- ชาเขียวอ่อน ๆ
บทสรุป
การดูแลตัวเอง หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและยั่งยืน การปฏิบัติตามข้อห้ามและคำแนะนำอย่างเคร่งครัดในช่วง 14 วันแรกจะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่สมบูรณ์ ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และยืดอายุการใช้งานของฟิลเลอร์ให้นานที่สุด หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติใดๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด