ฉีดไขมันแล้วก้อน สาเหตุและวิธีแก้ไข

การเติมไขมันหน้าเป็นหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและใช้เซลล์จากร่างกายตัวเอง แต่ปัญหาหนึ่งที่ทำให้หลายคนกังวลและอาจเกิดขึ้นได้คือ ฉีดไขมันแล้วก้อน ซึ่งส่งผลให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน มีความขรุขระ และอาจต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติม

หากคุณกำลังพิจารณาจะทำการเติมไขมันหน้า หรือกำลังประสบปัญหา ฉีดไขมันแล้วก้อน อยู่ในขณะนี้ บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจสาเหตุที่แท้จริง วิธีการแก้ไขที่ถูกต้อง การป้องกัน และคำตอบสำหรับคำถามที่หลายคนสงสัยว่า ก้อนไขมันนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหน หมอจะมาอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด

สารบัญ

การฉีดไขมันคืออะไร และทำไมถึงเป็นที่นิยม

การฉีดไขมันหน้า (Fat Grafting หรือ Fat Transfer) เป็นเทคนิคการเติมเต็มใบหน้าโดยการนำเซลล์ไขมันจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก มาผ่านกระบวนการคัดกรองและเตรียมให้มีคุณภาพสูงสุด จากนั้นจึงนำมาฉีดเติมเต็มบริเวณที่ต้องการบนใบหน้า

ข้อดีของการฉีดไขมันหน้า

การฉีดไขมันมีข้อดีหลายประการที่ทำให้ได้รับความนิยม ได้แก่ ความปลอดภัยสูง เนื่องจากใช้เซลล์จากร่างกายตัวเอง ไม่มีความเสี่ยงในการเกิดปฏิกิริยาแพ้ ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ เพราะไขมันมีเนื้อสัมผัสที่คล้ายกับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังตามธรรมชาติ ความคงทน ที่นานกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป และยังมี สเต็มเซลล์ ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวอีกด้วย

บริเวณที่สามารถฉีดไขมันได้

การฉีดไขมันสามารถทำได้หลายบริเวณบนใบหน้า เช่น หน้าผาก เพื่อเพิ่มความโหนกนูนและปรับโหงวเฮ้ง ขมับและแก้ม เพื่อแก้ไขปัญหาตอบฝ่อ ใต้ตา สำหรับปัญหาตาลึกโบ๋ ร่องแก้มและร่องน้ำหมาก เพื่อลดเลือนริ้วรอยลึก รวมถึง หน้าอกและสะโพก เพื่อเพิ่มขนาดและปรับสัดส่วน

สาเหตุหลักที่ทำให้ฉีดไขมันแล้วก้อน

ปัญหา ฉีดไขมันแล้วก้อน ไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยบังเอิญ แต่มีสาเหตุหลายประการที่ต้องเข้าใจเพื่อป้องกันและแก้ไขได้อย่างถูกต้อง

1. ความเชี่ยวชาญและเทคนิคของแพทย์ไม่เพียงพอ

สาเหตุสำคัญที่สุดของปัญหา ฉีดไขมันแล้วก้อน คือความไม่เชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำการรักษา การฉีดไขมันต้องผสานความรู้ทั้งการดูดไขมันและการเติมไขมัน รวมถึงความเข้าใจเรื่องกายวิภาคของใบหน้าอย่างลึกซึ้ง

ปัญหาที่เกิดจากเทคนิคผิด ได้แก่ การฉีดไขมันในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป การวางไขมันไม่กระจายทั่วบริเวณ การฉีดปริมาณมากเกินไปในจุดเดียว และการไม่ใช้เทคนิคการวางไขมันทีละจุดแบบกระจายตัว ซึ่งทำให้เลือดมาเลี้ยงเซลล์ไขมันไม่ได้ ส่งผลให้เซลล์ไขมันตายและกระจุกตัวเป็นก้อน

2. กระบวนการเตรียมไขมันไม่ได้มาตรฐาน

การเตรียมไขมันก่อนฉีดเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก หากไม่ดำเนินการอย่างถูกต้อง จะส่งผลให้ ฉีดไขมันแล้วก้อน ได้ง่าย

ขั้นตอนที่ถูกต้องในการเตรียมไขมัน ประกอบด้วย การปั่นไขมันอย่างน้อย 2 ครั้งเพื่อแยกเซลล์ไขมันให้บริสุทธิ์ การกรองสิ่งปนเปื้อน เลือด น้ำเกลือ และยาชาออก การปรับขนาดโมเลกุลให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่จะฉีด และการเก็บไขมันในระบบปิดปลอดเชื้อ

หากข้ามขั้นตอนเหล่านี้ ไขมันที่ยังเป็นก้อนหรือมีสิ่งปนเปื้อนจะทำให้เกิดปัญหา ฉีดไขมันแล้วก้อน และผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมา

3. เครื่องมือและเทคโนโลยีไม่เหมาะสม

การใช้เครื่องดูดไขมันที่ไม่เหมาะสมจะทำลายเซลล์ไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันฝ่อและตายง่าย เมื่อนำมาฉีดจึงไม่สามารถอยู่รอดได้ และกลายเป็นก้อนในที่สุด

เครื่อง Body-Jet เป็นเทคโนโลยีที่นุ่มนวลต่อเซลล์ไขมันมากที่สุด เนื่องจากใช้พลังงานน้ำเป็นตัวแยกและสลายไขมัน ไม่ทำให้เซลล์ไขมันบอบช้ำเหมือนเครื่องดูดไขมันที่ใช้พลังงานความร้อน

นอกจากนี้ ระบบการจัดเก็บไขมันและกระบวนการปั่นคัดแยกเซลล์ไขมันที่ได้มาตรฐานก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญ บางสถานที่อาจไม่มีการปั่นไขมันหรือปั่นแค่ครั้งเดียว ทำให้เซลล์ไขมันยังเป็นก้อน ส่งผลให้เกิดปัญหา ฉีดไขมันแล้วก้อน ได้

4. การดูแลตัวเองหลังฉีดไขมันผิดวิธี

หลังจากฉีดไขมันแล้ว การดูแลตัวเองในช่วง 1 เดือนแรกมีความสำคัญมาก การกดทับหรือใช้แรงกับบริเวณที่เพิ่งฉีดไขมันอาจทำให้เกิดปัญหา ฉีดไขมันแล้วก้อน ได้

การดูแลที่ผิด เช่น การใส่แว่นหากฉีดไขมันบริเวณใกล้จมูกและแก้ม การใส่หมวกหากฉีดไขมันที่หน้าผาก การสูบบุหรี่หรืออยู่ใกล้ควันบุหรี่ การออกกำลังกายหนักเกินไป และการลดน้ำหนักในช่วงแรกหลังฉีด

อ่านเพิ่มเติม : ฉีดไขมันแล้วผิวไม่เรียบ สาเหตุและวิธีแก้ไขที่ถูกต้อง พร้อมวิธีการป้องกัน

อาการและสัญญาณของฉีดไขมันแล้วก้อน

การรู้จักอาการของ ฉีดไขมันแล้วก้อน จะช่วยให้สามารถตรวจพบและรับการรักษาได้ทันท่วงที

อาการที่ควรสังเกต

  • ผิวไม่เรียบเนียน มีความขรุขระหรือเป็นคลื่น – เมื่อสังเกตจากภายนอก บริเวณที่ฉีดไขมันจะดูไม่เรียบเนียนเหมือนผิวปกติ อาจมีความขรุขระ หรือมีลักษณะเป็นคลื่นเหมือนผิวส้ม โดยเฉพาะเมื่อมองในแสงสว่างหรือเมื่อทำสีหน้าต่างๆ
  • จับแล้วรู้สึกแข็ง มีก้อนใต้ผิวหนัง – เมื่อใช้นิ้วกดเบา ๆ หรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดไขมัน จะรู้สึกถึงก้อนแข็งใต้ผิวหนัง ซึ่งแตกต่างจากเนื้อเยื่อปกติที่ควรมีความนิ่มและยืดหยุ่น ก้อนเหล่านี้อาจมีขนาดตั้งแต่เล็กเหมือนเม็ดถั่วไปจนถึงใหญ่เหมือนลูกปิงปอง
  • หน้าไม่สมมาตร 2 ข้างไม่เท่ากัน – การที่ไขมันติดไม่เท่ากันหรือเป็นก้อนเฉพาะข้างใดข้างหนึ่ง จะทำให้ใบหน้าดูไม่สมมาตร อาจมีข้างหนึ่งดูอวบกว่าอีกข้าง หรือมีรูปทรงที่แตกต่างกัน
  • ผิวหน้าดูผิดรูป ไม่เป็นธรรมชาติ – รูปหน้าโดยรวมอาจดูผิดไปจากเดิม มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เป็นธรรมชาติ เช่น หน้าดูบิดเบี้ยว มีการยื่นหรือยุบผิดปกติในบางจุด หรือสัดส่วนของใบหน้าดูไม่ลงตัว
  • มีการอักเสบ แดง บวม หรือเจ็บ – หากมีการติดเชื้อหรือร่างกายปฏิเสธไขมันที่ตาย อาจมีอาการอักเสบตามมา เช่น ผิวแดง บวม มีความร้อน เจ็บเมื่อแตะต้อง หรืออาจมีหนองไหลออกมา

ระยะเวลาที่อาการปรากฏ

อาการ ฉีดไขมันแล้วก้อน มักจะสังเกตได้ภายใน 2-4 สัปดาห์หลังจากทำหัตถการ ในบางกรณีอาจปรากฏเร็วกว่านี้หากมีการอักเสบหรือติดเชื้อร่วมด้วย ส่วนก้อนไขมันที่เกิดจากเทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้องอาจใช้เวลานานกว่านี้จึงจะเห็นชัดเจน

วิธีแก้ไขและรักษาฉีดไขมันแล้วก้อน

เมื่อเกิดปัญหา ฉีดไขมันแล้วก้อน แล้ว มีวิธีการแก้ไขหลายแบบที่แพทย์จะพิจารณาตามความรุนแรงและลักษณะของปัญหา

1. การรอให้ไขมันสลายตัวเองตามธรรมชาติ

ในกรณีที่ไม่มีการอักเสบหรือติดเชื้อ แพทย์มักแนะนำให้รอให้ไขมันสลายตัวเองก่อน เนื่องจาก ไม่มีเอนไซม์ที่สามารถสลายไขมันได้เหมือนฟิลเลอร์ ร่างกายจะค่อยๆ ดูดซับไขมันที่ตายแล้วออกไป โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 6-12 เดือน

การรอให้สลายเองเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด แต่ต้องใช้ความอดทนและอาจต้องใช้เมกอัพหรือเทคนิคการปกปิดในระหว่างรอ

2. การผ่าตัดนำไขมันออก

หากก้อนไขมันมีขนาดใหญ่หรือก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรง อาจต้องพิจารณาผ่าตัดนำออก โดยเฉพาะที่บริเวณใบหน้าซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูงเนื่องจาก มีเส้นประสาทเยอะมาก ต้องการความแม่นยำในการผ่าตัด และ มีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง

การผ่าตัดนำไขมันออกบริเวณใบหน้าต้องทำโดยแพทย์ผู้ที่มีความรู้ด้านกายวิภาคของโครงหน้าอย่างแท้จริง และมีประสบการณ์ในการจัดการกับปัญหา ฉีดไขมันแล้วก้อน โดยเฉพาะ

3. การรักษาเสริมด้วยเทคนิคอื่น

ในบางกรณี อาจใช้วิธีการรักษาเสริมอื่นๆ เช่น การใช้ฟิลเลอร์ปรับแต่งความไม่สมมาตร เพื่อปรับแก้จุดที่ขาดหายไปหลังจากไขมันสลายตัว การใช้โบท็อกช่วยตกแต่ง ในบางกรณีที่มีปัญหาด้านกล้ามเนื้อ และ การนวดเบา ๆ เพื่อช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้นและอาจช่วยลดก้อนเล็ก ๆ ได้บ้าง

4. การติดตามและประเมินผล

การติดตามอาการอย่างใกล้ชิดกับแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกหลังเกิดปัญหา แพทย์จะประเมินว่าก้อนไขมันมีแนวโน้มสลายตัวเองหรือไม่ และจะต้องมีการแทรกแซงเพิ่มเติมหรือไม่

การป้องกันฉีดไขมันแล้วก้อน

การป้องกันปัญหา ฉีดไขมันแล้วก้อน เป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะการป้องกันง่ายกว่าการแก้ไข โดยมีวิธีการป้องกัน ดังนี้

1. การเลือกแพทย์และคลินิก

  • ตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพของแพทย์ – แพทย์ที่ทำการฉีดไขมันควรเป็นแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์อย่างถูกต้องจากแพทยสภา และควรมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านศัลยกรรมตกแต่ง
  • ดูประสบการณ์เฉพาะด้านการฉีดไขมัน – แพทย์ควรมีประสบการณ์ในการทำหัตถการฉีดไขมันมาอย่างน้อย 3-5 ปี และเคยทำงานกับเคสที่หลากหลาย สามารถแสดงผลงานก่อน-หลัง (Before-After) ของผู้ป่วยจริงได้
  • อ่านรีวิวและผลงานจากผู้รับบริการจริง – ศึกษารีวิวจากผู้ป่วยจริงที่เคยรับบริการ โดยเฉพาะรีวิวที่มีรูปภาพประกอบและมีการติดตามผลในระยะยาว
  • เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน – คลินิกควรได้รับใบอนุญาตประกอบการรักษาจากกระทรวงสาธารณสุข มีการรับรองมาตรฐานและมีระบบจัดการคุณภาพที่ดี

2. การเตรียมตัวก่อนทำ

  • ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด – ทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการทำ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และการดูแลตัวเองหลังทำ
  • ปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด – สอบถามเกี่ยวกับเทคนิคที่จะใช้ เครื่องมือ และประสบการณ์ของแพทย์ในการจัดการกับปัญหา ฉีดไขมันแล้วก้อน
  • เตรียมสุขภาพให้พร้อม – งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำ หลีกเลี่ยงยาลดการแข็งตัวของเลือด และพักผ่อนให้เพียงพอ

3. การดูแลตัวเองหลังทำ

  • หลีกเลี่ยงการกดทับ – งดการใส่แว่นหากฉีดบริเวณใกล้จมูก งดใส่หมวกหากฉีดบริเวณหน้าผาก และหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ
  • ดูแลบาดแผล – รักษาความสะอาดของบาดแผลทั้งจุดที่ดูดไขมันและจุดที่ฉีด ทาครีมปฏิชีวนะตามที่แพทย์สั่ง
  • งดกิจกรรมบางอย่าง – หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การลดน้ำหนัก การสูบบุหรี่ และการอยู่ในที่ที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด
  • ติดตามอาการ – สังเกตอาการผิดปกติและนัดติดตามกับแพทย์ตามกำหนด

บทสรุป

หลังจากที่เราได้คุยกันเรื่องปัญหา ฉีดไขมันแล้วก้อน มาตลอดบทความนี้ หมอคิดว่าทุกคนคงเข้าใจแล้วว่า ปัญหานี้ป้องกันและแก้ไขได้ครับ หัวใจหลักคือการเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จริง และเลือกคลินิกที่ใช้เทคโนโลยีที่ได้มาตรฐาน

ที่สำคัญที่สุดคือ การป้องกันดีกว่าการรักษา ประกอบกับการดูแลตัวเองหลังทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หากเกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ ก็อย่าเครียด เพราะส่วนใหญ่ร่างกายสามารถดูดซับไขมันที่ตายได้เองภายใน 6-12 เดือน แต่ไม่ควรรอเกิน 1 ปี ถ้าไม่ดีขึ้นก็ควรปรึกษาแพทย์

สำหรับใครที่กำลังคิดจะทำ ใช้เวลาศึกษาข้อมูลให้ดี เลือกแพทย์ที่เชี่ยวชาญจริง และเตรียมใจรับฟังคำแนะนำการดูแลตัวเองหลังทำด้วย เพราะทุกขั้นตอนมีความสำคัญต่อผลลัพธ์สุดท้าย

หมอฉีดฟิลเลอร์ที่ดี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า