ฟิลเลอร์ อยากฉีดแต่ไม่อยากเสี่ยง เรื่องต้องรู้ก่อนฉีด
หลายคนอาจเคยได้ยินฟิลเลอร์ (Filler) หรือสาร Hyaluronic Acid มาแล้วบ้าง แต่หากอยากทราบข้อมูลให้มากยิ่งขึ้น ว่านอกจากช่วยเติมเต็มใบหน้า ริ้วรอย รอยหมองคล้ำดูจางลง ยังช่วยอะไรได้อีก
ซึ่งฟิลเลอร์ไม่เพียงแค่เติมเต็มจุดใดจุดหนึ่งบนมบหน้า แต่สามารถฉีดจุดต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก จมูก ปาก คาง ขมับ แก้มตอบ เป็นต้น ในบทความนี้ได้รวบรวมข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เกณฑ์การตัดสินใจ ข้อดี – ข้อเสีย รวมถึงอันตรายของฟิลเลอร์ หรือเลือกฟิลเลอร์รุ่นไหนให้เหมาะกับปัญหา
ดังนั้น Filler Expert จะพาทุกท่านไปเจาะลึกเกี่ยวกับ ฟิลเลอร์ โดยอาจารย์แพทย์หมอขนม ดร.พญ.ภัทรชนน อัศววรฤทธิ์ แพทย์ด้านการฉีดฟิลเลอร์และการปรับรูปหน้า ระดับนานาชาติ
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มที่มีลักษณะเป็นเจลใส มีส่วนประกอบหลักคือกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ ใช้สำหรับฉีดเข้าใต้ผิวหนังเพื่อเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอย หรือปรับรูปทรงใบหน้าให้มีมิติสวยงามขึ้น
ฟิลเลอร์ มีส่วนช่วยแก้ไขโครงสร้างใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ใบหน้าบริเวณที่ฉีดเต่งตึงขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเติมเส้นใยคอลลาเจนที่หายไป ให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ดูจางลง และใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
ฟิลเลอร์ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
Temporary filler (แบบชั่วคราว)
Temporary Filler หรือฟิลเลอร์แบบชั่วคราว เป็นฟิลเลอร์ที่นิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน มีส่วนประกอบหลักคือกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย ฟิลเลอร์ประเภทนี้จะอยู่ในร่างกายได้ประมาณ 6-18 เดือน จากนั้นจะค่อยๆ สลายตัวไปเองตามธรรมชาติ ข้อดีคือมีความปลอดภัยสูง และมีสารแก้ในกรณีที่เกิดภาวะแทรกซ้อน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นฉีดฟิลเลอร์ หรือต้องการทดลองปรับเปลี่ยนรูปหน้า
Semi Permanent Filler (แบบกึ่งถาวร)
Semi Permanent Filler หรือฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร มีส่วนประกอบหลักเป็น Calcium Hydroxylapatite (CaHA) หรือ Poly-L-lactic acid ซึ่งนอกจากจะช่วยเติมเต็มแล้ว ยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้ด้วย ฟิลเลอร์ประเภทนี้จะอยู่ในร่างกายได้นานกว่าแบบชั่วคราว ประมาณ 1-2 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์มาก่อน และต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนานขึ้น
Permanent Filler (แบบถาวร)
Permanent Filler หรือฟิลเลอร์แบบถาวร มีส่วนประกอบหลักเป็น PMMA, Silicone หรือ Polyacrylamide เป็นสารที่ไม่สลายตัวและคงอยู่ในร่างกายอย่างถาวร แม้จะให้ผลลัพธ์ที่ถาวร แต่ก็มีความเสี่ยงสูง เพราะหากเกิดปัญหาหรือภาวะแทรกซ้อน การแก้ไขทำได้ยากและต้องใช้วิธีผ่าตัดเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ แพทย์ส่วนใหญ่จึงไม่แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ประเภทนี้เพื่อการเสริมความงาม
ในการเลือกประเภทของฟิลเลอร์ แพทย์ผู้ชำนาญส่วนใหญ่จะแนะนำให้เริ่มต้นด้วย Temporary Filler เนื่องจากมีความปลอดภัยสูง และสามารถปรับเปลี่ยนได้หากผลลัพธ์ไม่เป็นที่พอใจ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเลือกฟิลเลอร์ประเภทใด สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเข้ารับการรักษากับแพทย์ด้านฟิลเลอร์ และศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนการตัดสินใจ
ทั้งนี้ ไม่แนะนำให้ฉีดสารเติมเต็มแบบถาวร ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายได้ ผิวไม่สามารถดูดซึมได้ และยังไม่ผ่านอย. เป็นจำพวกซิลิโคนเหลว ซิลิโคนเหลว พาราฟิน ทำให้ตกค้างอยู่ในชั้นผิวเพราะหากต้องการนำออก อาจจะไม่สามารถนำออกได้หมด อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ในระยะยาว
ฉีดฟิลเลอร์ แล้วอันตรายจริงไหม
การฉีดฟิลเลอร์ อันตรายจริงหรือ? หลายคนอาจเคยได้ยินข่าวผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ แต่จริงๆ แล้ว หากฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญการและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน FDA การฉีดฟิลเลอร์ถือว่าปลอดภัย โดยเฉพาะฟิลเลอร์ชนิดกรดไฮยาลูรอนิกที่เข้ากันได้ดีกับร่างกาย
การฉีดฟิลเลอร์จะอันตรายก็ต่อเมื่อ ฉีดสารฟิลเลอร์ปลอมเข้าไปในร่างกาย หรือแพทย์ที่ทำการฉีดรักษาไม่เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับกายวิภาคและตำแหน่งเส้นเลือดบนใบหน้าโดยตรง ทำให้เสี่ยงต่อการอุดตันในเส้นเลือด หรือหากเป็นการฉีดในตำแหน่งที่มีเส้นเลือดอยู่มาก เช่น จมูก ใต้ตา หรือหน้าผาก อาจจะเสี่ยงตาบอดได้หรืออันตรายถึงแก่ชีวิตได้เช่นเดียวกัน
แม้จะมีความเสี่ยงบ้าง เช่น อาการบวม ช้ำ หรือในกรณีร้ายแรงอาจเกิดเส้นเลือดอุดตัน แต่ข้อดีของฟิลเลอร์ชนิดกรดไฮยาลูรอนิกคือ หากมีปัญหา แพทย์สามารถฉีดสารละลายเพื่อสลายฟิลเลอร์ออกได้ทันทีเพื่อความปลอดภัย ควรเลือกแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ฉีดในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน แจ้งประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัว และปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างเคร่งครัด
สรุปคือ การฉีดฟิลเลอร์ไม่อันตรายอย่างที่หลายคนกังวล หากทำอย่างถูกวิธีและอยู่ในการดูแลของแพทย์ที่ผ่านการอบรมด้านฟิลเลอร์มาโดยตรง แต่ก็ควรศึกษาข้อมูลให้ดีและเลือกสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยที่สุด
ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มและแก้ไขปัญหา มีดังนี้
ในแต่ละตำแหน่ง จะใช้ฟิลเลอร์ปริมาณไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของผู้เข้ารับบริการแต่ละคน และแพทย์ประเมินใบหน้า ทั้งนี้ เป็นเพียงการประมาณปริมาตรเท่านั้น ขึ้นอยู่กับระดับปัญหาของแต่ละบุคค
ใต้ตา
ฟิลเลอร์จะช่วยแก้ปัญหาใต้ตา ยกหน้าแก้ม ให้ใต้ตานั้นดูตื้นขึ้น รอยคล้ำให้ดูจางลง ใบหน้ากลับมาสดใส และดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
>>> อ่านเพิ่มเติม <<<
คาง
สำหรับแก้ปัญหาผู้ที่มีใบหน้ากลม คางสั้นคางบุ๋มไม่เท่ากัน ฟิลเลอร์จะช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวยาว มีมิติ สมส่วนและดูละมุนมากขึ้น
>>> อ่านเพิ่มเติม <<<
ร่องแก้ม
สำหรับแก้ปัญหาบริเวณร่องแก้ม ที่มีรอยพับ แก้มห้อยย้อย เป็นเหตุให้ใบหน้าดูมีอายุกว่าวัย ให้ดูอ่อนเยาว์ สมวัย ชุ่มชื้นและใบหน้าดูเรียบเนียนขึ้น
>>> อ่านเพิ่มเติม <<<
จมูก
สำหรับแก้ปัญหาอยากเสริมจมูกแต่ไม่อยากผ่าตัด การฉีดฟิลเลอร์จมูกจึงเป็นอีกทางเลือก ที่ช่วยปรับรูปจมูกให้ดูโด่ง และสมดุลรับกับใบหน้าขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
>>> อ่านเพิ่มเติม <<<
หน้าผาก
สำหรับแก้ปัญหาบริเวณหน้าผาก เพื่อปรับแก้รูปหน้า ปัญหาหน้าผากยุบ บุ๋ม แบน หรือมีริ้วรอยร่องลึก หรือผู้ที่ต้องการให้หน้าผากยกนูนสวย ได้สัดส่วนที่สมดุล และดูเป็นธรรมชาติ
>>> อ่านเพิ่มเติม <<<
ปาก
สำหรับการแก้ไขและเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม หรือจัดแต่งให้เป็นรูปทรงตามที่ต้องการ เช่น ปากกระจับ ปากสายฝอ แบบไม่ต้องผ่าตัด
>>> อ่านเพิ่มเติม <<<
ขมับ
สำหรับแก้ปัญหาโหนกแก้มที่เด่นดูเหมือนยุบลง แก้ปัญหาขมับตอบ ช่วยให้หน้าหวานขึ้น ปรับใบหน้าให้เรียวสวยได้รูป
>>> อ่านเพิ่มเติม <<<
แก้มตอบ
สำหรับแก้ปัญหาความเด่นของกระดูกโหนกแก้ม ปัญหาเนื้อแก้ม ชั้นไขมันที่หายไป จะช่วยปรับลดความเด่นของกระดูกโหนกแก้ม ให้ดูเต็มและดูอิ่มเอิบ ผ่องใสขึ้น
>>> อ่านเพิ่มเติม <<<
สะโพก
สำหรับแก้ปัญหาสะโพกแบน บุ๋ม ไม่ได้รูป ช่วยให้สะโพกและก้นกระชับ เด้งผายสวย และฟูเต็มอิ่ม เรียกความมั่นใจให้คุณผู้หญิงในการแต่งตัวมากขึ้น
>>> อ่านเพิ่มเติม <<<
หลังมือ
สำหรับแก้ปัญหาหลังมือที่แห้งเหี่ยว แห้งกร้านจนเห็นเส้นเลือด เพื่อช่วยปรับสภาพผิวมือให้ชุ่มชื้น กระจ่างใส และดูอ่อนเยาว์ลง เปล่งปลั่ง ผิวบริเวณมือแลดูสุขภาพดี
>>> อ่านเพิ่มเติม <<<
น้องสาว
สำหรับแก้ปัญหาน้องสาวขาดความเต่งตึง หย่อนยาน ไม่โหนกนูนเหมือนแต่ก่อน ให้กลับมาเต่งตึงและดูสุขภาพดี
>>> อ่านเพิ่มเติม <<<
- จมูก 1 CC
- คาง 1-2 CC
- ปาก 1-2 CC
- ร่องแก้ม 1-2 CC
- เติมแก้ม แก้มตอบ 2-4 CC
- ใต้ตา 1-3 CC
- ขมับ 2-3 CC
- หน้าผาก 4-6 CC
- ร่องใต้มุมปาก 1-2 CC
อาการแพ้ฟิลเลอร์ มีโอกาสน้อยกว่า 1% ที่จะพบคนที่แพ้ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid ค่ะ แต่ขณะเดียวกัน อาการข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์ ก็มีดังนี้
- อาจเกิดรอยแดง หรือรอยช้ำบริเวณที่ฉีด สามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
- หากมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ จะเห็นเป็นก้อนบวม นูนแดงอักเสบ สามารถเกิดได้ภายในระยะเวลา 6 เดือนหลังจากฉีดฟิลเลอร์ เบื้องต้นสามารถพบแพทย์ที่ทำการฉีด และทานยาฆ่าเชื้อ เพื่อบรรเทาอาการบวมได้
ในปัจจุบันประเทศไทย มีฟิลเลอร์หลากหลายยี่ห้อหลากหลายรุ่นด้วยกัน ที่ผ่านมาตรฐาน อย.ไทยเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ดังนี้
Restylane
ฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน การันตีจาก FDA อเมริกา และ CE MARKS จากยุโรป Restylane เฉลี่ยความคงทนอยู่ที่ 12-15 เดือน มีด้วยกันหลายรุ่น ดังนี้
- Restylane classic ใช้ในตำแหน่ง Midface แก้มส้ม ร่องแก้ม ร่องพับมุมปาก ร่องพับคาง
- Restylane Refyne ใช้ในบริเวณที่ผิวหนังบาง ๆ มีรอยยับเล็ก ๆ ต้องการเก็บละเอียด เช่น รอบดวงตา
- Restylane Defyne ใช้ในตำแหน่ง midface หรือบางคนนำมาใช้ในการเติมเต็มแก้มส้ม ร่องน้ำหมาก ร่องพับคาง
- Restylane Lyft ใช้ในตำแหน่งที่ต้องการแรงยกสูง เช่น บริเวณขมับ
- Restylane Volyme ใช้ในตำแหน่ที่ยุบ โหล ลึก หรือตอบ เช่น แก้มตอบ ร่องแก้ม เป็นต้น
- Restylane Vital ช่วยแก้ไขปัญหา ริ้วรอย ร่องลึก ตื้น ๆ ใช้ในตำแหน่งหน้าผากที่ต้องการความฉ่ำวาวของผิว และความเรียบเนียน
- Restylane Vital light ใช้ในตำแหน่งที่มีหลุมสิว รอยคล้ำใต้ตา หรือบริเวณที่ต้องการความชุ่มชื้นเป็นหลัก เช่น หลังฝ่ามือ ฝ่าเท้า รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่ลำคอ และเนินอก
- Restylane Kysse *new ฟิลเลอร์สำหรับริมฝีปากโดยเฉพาะ ช่วยเติมเต็มริมฝีปากให้ดูชุ่มชื้น ปรับริมฝีปากให้เรียบเนียน เพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากดูสวย
Juvederm
ฟิลเลอร์นำเข้าจากอเมริกา ผลิตโดยบริษัท Allergan ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก US FDA และ อย.ประเทศไทย เฉลี่ยความคงทนอยู่ที่ 8 -18เดือน มีหลากหลายรุ่น ดังนี้
- Ultra / Ultra plus ใช้ในตำแหน่งที่ต้องการปริมาตรมาก เช่น ขมับ แก้มตอบ
- Voluma filler ใช้ในตำแหน่งใต้ตา ปาก ร่องแก้มได้รับความนิยมเนื่องจากฉีดแล้วดูสวยเป็นธรรมชาติ
- Volift filler ใช้ในตำแหน่งร่องลึกและรอยย่น อันเนื่องมาจากสภาวะต่าง ๆ เช่นการแก่ก่อนวัย
- Vobella filler ใช้ในตำแหน่งคาง ขมับตอบ หรือการฉีดลิฟติ้งยกใบหน้า
- Volite filler ใช้ในตำแหน่งที่มีรอยบริเวณผิวหนัง ช่วยเติมความยืดหยุ่นให้ดีขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้น ลดรอยยับ
Belotero
Belotero filler หรือ Colorful filler ฟิลเลอร์นำเข้าจากสวิสเซอร์แลนด์ ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM Technology เฉลี่ยความคงทนอยู่ที่ 18 เดือน มีหลายรุ่น ดังนี้
- Belotero Soft (สีเหลือง) ใช้ในตำแหน่งหน้าแก้ม ใต้ตา ใช้สำหรับในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวกระจ่างใส หน้าฉ่ำวาว
- Belotero Balance (สีส้ม) ใช้ในตำแหน่งใต้ตา ปาก เพิ่มความกระจ่างใส เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน สร้างขอบปากและสร้างร่องเหนือริมฝีปากให้ชัดมากขึ้น
- Belotero Intense (สีชมพู) ใช้ในตำแหน่งขมับ หรือริมฝีปาก เติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม และใช้ยกกระชับใบหน้า รวมไปถึงริ้วรอยร่องลึกตามใบหน้า ช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์
- Belotero Volume (สีม่วง) ใช้ในตำแหน่งคาง ขมับ แก้มส้ม เพิ่มมิติให้กับใบหน้า
- Belotero Revive *new ใช้สำหรับฉีดบำรุงผิว เน้นการฟื้นฟู เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว ไม่เน้นปรับโครงสร้างผิวเหมือนรุ่นอื่น ๆ
Definisse
ฟิลเลอร์จากประเทศอิตาลี ผู้ผลิตเดียวกับไหม Definisse ตัวยาใช้เทคโนโลยี XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) มี 3 รุ่น ดังนี้
- Touch ใช้ในตำแหน่งหน้าผากให้ดูสวยเป็นธรรมชาติ
- Restore ใช้ในตำแหน่งที่มีริ้วรอยร่องลึก รอยหย่อนคล้อยร่องแก้ม ร่องมุมปาก
- Core ใช้ในตำแหน่งที่ต้องการปรับโครงสร้างหน้า หรือยกพยุงหน้า
E.P.T.Q
ฟิลเลอร์ E.P.T.Q. ยี่ห้อดังจากประเทศเกาหลีใต้ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ด้วยคุณภาพที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน CE และ KFDA มีความบริสุทธิ์สูง ช่วยลดความเสี่ยงการแพ้ และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ โดยแบ่งออกเป็น 3 รุ่นหลักตามความเข้มข้นและการใช้งาน ดังนี้
- E.P.T.Q. S100 รุ่นที่มีความเหลวมากที่สุด เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยตื้นๆ และเพิ่มความชุ่มชื้น นิยมใช้ในบริเวณรอบดวงตา ใต้ตา และริ้วรอยละเอียด ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน
- E.P.T.Q. S300 ที่มีความหนืดปานกลาง เหมาะสำหรับริ้วรอยปานกลางถึงลึก โดยนิยมใช้เติมร่องแก้ม ริมฝีปาก และแก้มที่ตอบ ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานขึ้นประมาณ 8-14 เดือน
- E.P.T.Q. S500 มีความหนืดสูงและเนื้อแน่น เหมาะกับการเพิ่มปริมาตรและปรับรูปหน้า โดยเฉพาะการเสริมคาง โหนกแก้ม และจมูก ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 12-18 เดือน
Valiofill
Variofill คือ นวัตกรรมฟิลเลอร์เพิ่มความอิ่มเต็มบั้นท้ายจากเยอรมนี เป็นฟิลเลอร์คุณภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อการเติมเต็มและปรับรูปทรงบั้นท้ายโดยเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยี Cross-Linked HA ที่มีความเข้มข้นสูงถึง 33 mg/ml ทำให้สามารถปั้นแต่งรูปทรงได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ชนิดนี้ผลิตจากกรดไฮยาลูโรนิกบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกาย ช่วยดูดซับน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่นให้กับผิว พร้อมทั้งสามารถเพิ่มขนาดและปรับรูปทรงบั้นท้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Revolax
Revolax คือ ฟิลเลอร์อังกฤษคุณภาพสูงจาก Biotech ประเทศเกาหลี แบรนด์ฟิลเลอร์ที่ครองใจคนทั่วยุโรป โดดเด่นด้วยนวัตกรรมที่เข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อ ลดความเสี่ยงการแพ้ และให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ แบ่งเป็น 3 รุ่นตามการใช้งาน
- Fine เนื้อบางเบา เหมาะสำหรับริ้วรอยตื้น รอบดวงตา และใต้ตา
- Deep เนื้อข้นปานกลาง ใช้เติมร่องแก้ม และริ้วรอยลึก
- Sub-Q เนื้อข้นพิเศษ สำหรับเพิ่มปริมาตร เช่น โหนกแก้ม คาง และจมูก
นอกจากนี้ยังมีฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ให้เลือกสรรอีกมากมาย เช่น Yvoire, Revanesse, Neuramis และ Perfecta สามารถปรึกษากับแพทย์เพื่อวางแพลนการรักษาตามปัญหาได้อย่างเหมาะสม
ข้อควรทำก่อนฉีด
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาได้ผลที่ดี และมีประสิทธิภาพแนะนำให้ปฏิบัติ 6 ข้อ ดังนี้
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ก่อนฉีด 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงอาหารเสริมหรือยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวด กลุ่ม NSAIDs, aspirin, Ibuprofen อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการใช้สมุนไพร เช่น น้ำมันตับปลา แปะก๊วย โสม เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัด รสจัด 2-3 วันก่อนฉีด เพราะจะทำให้รอยเข็มที่ฉีดมีโอกาสบวมมากขึ้น
- แจ้งประวัติโรคประจำตัว การตั้งครรภ์ การใช้ยาให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนฉีด
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ ประกอบไปด้วยขั้นตอน ดังนี้
- แพทย์ประเมินใบหน้าและวางแผน
- ทำความสะอาดใบหน้าและใช้ยาชา ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นขณะฉีดฟิลเลอร์
- ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ ตามเทคนิคของแพทย์แต่ละท่าน
- การทำความสะอาดใบหน้าที่ฉีดและฟังคำแนะนำจากแพทย์สำหรับข้อปฏิบัติหลังฉีด
หลังฉีดฟิลเลอร์
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังฉีดมีประสิทธิภาพ มีขั้นตอนการดูแลหลังฉีด ดังนี้
- หลังฉีดหากมีบริเวณที่ช้ำ ให้ประคบเย็นเบา ๆ บริเวณที่ฉีดครั้งละ 10 นาที ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- งดกดนวดบริเวณที่ฉีด 48 ชั่วโมง
- งดการออกกำลังกาย หรือทำกิจจกรรมที่สร้างความร้อนให้แก่ร่างกาย เช่น การซาวน่า เลเซอร์ 24 ชั่วโมง
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่หลังฉีด 24 ชั่วโมง ดีที่สุดอย่างน้อย 3 วัน
- งดการแต่งหน้าหรือใช้ครีมบำรุงทุกชนิด เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- สามารถล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ และหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนน้ำ เกิน 15 นาที
- ควรดื่มน้ำสะอาดให้เยอะ ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปอุ้มน้ำและฟูขึ้น
- หากมีอาการปวด แนะนำให้รับประทานยากลุ่มยาแก้ปวด พาราเซตามอล หรือยาที่แพทย์แนะนำให้ครบ เพื่อลดการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารทีไม่สุก และอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
การฉีดสลายฟิลเลอร์ จะใช้สาร Hyarulonidase (HYAL) เข้าไปบริเวณที่ต้องการสลาย เพื่อแก้ไขปัญหาฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง, ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน หรือ ฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ ที่ไม่พึ่งประสงค์จากฟิลเลอร์แท้
ปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งอย่างสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ ก็คือ การเลือกสถานพยาบาล แพทย์ผู้ทำการรักษา เพื่อความปลอดและผลลัพธ์การรักษาที่พึงพอใจและได้ประสิทธิภาพมากที่สุด และปัจจัยสำคัญที่ต้องศึกษา ดังนี้
มีรีวิวจากผู้เข้ารับบริการจริง เชื่อถือได้
ต้องดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง พิจารณาจากแหล่งที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ มีความเป็นปัจจุบัน ดูรูปและคลิปวิดีโอ เปรียบเทียบ Before – After เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเชื่อถือได้
มีราคาที่เหมาะสม
ราคาฟิลเลอร์แท้ต้องไม่สูงหรือต่ำจนเกินไปจากคลินิกอื่น ๆ มาก ทั้งนี้ อาจจะแตกต่างกันได้ในด้านความชำนาญของแพทย์ บางที่มีราคาถูกจนเกินไป คาดน่าจะเป็นฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
แพทย์ที่ทำการฉีดต้องเชี่ยวชาญโดยตรง
แพทย์ต้องมีประสบการณ์และความชำนาญเฉพาะทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ มีความเชี่ยวชาญการวางตัวยาในตำแหน่งชั้นผิวแบบใดแก้ปัญหาใด มีความรู้ด้านกายวิภาค การเลือกปริมาตรของยาให้เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่งที่ฉีด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติ และบวมช้ำน้อยที่สุด และ ไม่เกิดปัญหาหลังการฉีดฟิลเลอร์ในแบบต่าง ๆ
*ที่สำคัญ ต้องมั่นใจได้ว่าเป็นแพทย์จริง สามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์ได้ที่ เว็บไซต์ : แพทย์สภา
ฟิลเลอร์แท้ จะมีราคาค่อนข้างสูง (อย่างต่ำประมาณ 1X,000 บาท/CC.) ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ และความชำนาญของแพทย์ แน่นอนฟิลเลอร์อาจจะรุ่นเดียวกันหรือตัวเดียวกัน แต่ที่ทำให้ ฉีดฟิลเลอร์ราคา แตกต่างกันนั้น ก็เป็นเรื่องของฝีมือแพทย์ การเข้าใจกายวิภาค แพทย์ที่ดีมักอัปเดตความรู้และเทคนิคตลอดเวลาไม่ว่าจะทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ฟิลเลอร์แท้ ดูอย่างไร
ฟิลเลอร์แท้ ต้องได้รับการรับรองโดย FDA และผ่านการรับรองจาก อย.ไทย ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองอย่างถูกต้อง
วิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์แท้
- มีเลขทะเบียน อย. และมีภาษาไทยกำกับ : ฟิลเลอร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย.ไทย นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นสารที่ใช้ในทางการแพทย์โดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
- มีเลข LOT บนหน้ากล่องเข็มด้านใน : สามารถดูเลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิต หรือ Lot No. ที่กล่องของฟิลเลอร์ สามารถโทรไปตรวจสอบได้
- มีการบรรจุเข็มภายในกล่องในจำนวนที่ถูกต้อง : ภายในกล่องจะประกอบด้วยเข็มจำนวน 2 อัน พร้อมระบุวันหมดอายุอย่างชัดเจน
- มีเอกสารกำกับ : เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญของฟิลเลอร์ที่มีประโยชน์และให้ความปลอดภัยแก่ผู้รับบริการ มีเอกสารกำกับและฉลากทุกกล่อง มีบาร์โค้ดชัดเจนที่ด้านข้างตัวกล่อง ผู้รับบริการสามารถติดตามและตรวจสอบย้อนหลังได้
- ฟิลเลอร์ของแท้ จะมีเลข LOT บนหน้ากล่องและด้านในตรงกัน
การฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้าให้รับกับโหงวเฮ้ง ช่วยในเรื่อง ความรักคู่ครอง หน้าที่การงาน การบริหารงาน ธุรกิจต่าง ๆ การคบค้าสมาคม รวมไปจนถึงเรื่องวาสนา การสร้างความปลอดภัยให้ตนเอง เพื่อให้ชีวิตราบรื่น สมหวังในเรื่องต่าง ๆ มากขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์ ช่วยแก้โหงวเฮ้งให้ดีขึ้นได้ เพราะสามารถเลือกฉีดปรับแต่งในจุดต่าง ๆ ได้ละเอียดกว่าหัตถการอื่น ๆ และสามารถแก้ไขได้ง่าย แบบไม่ต้องพักฟื้น
**ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ
ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน
อาการข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ ในทุกตำแหน่งอาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันเล็กน้อยในจุดที่ทำการฉีดเป็นปกติ สามารถหายเองได้ 2-3 วัน หากอาการไม่ดีขึ้น ให้รีบเข้าไปปรึกษาแพทย์ที่ทำการฉีดทันทีเพื่อประเมินและวิเคราะห์ถึงความผิดปกติ
ฉีดฟิลเลอร์แล้วอยู่ได้นานแค่ไหน
การฉีดฟิลเลอร์ทุกตำแหน่งจะอยู่ได้นาน 6–24 เดือน และจะค่อย ๆ สลายไปเอง 100% โดยไม่ทิ้งสารตกค้าง และจะอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับการดูแลหลังฉีด ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ และปริมาณความเข้มข้นของ Hyaluronic Acid นั่นเองค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม
ไม่เจ็บค่ะ เนื่องจากแพทย์ผู้ทำการรักษาจะทายาชาก่อน และนอกจากนี้ตัวของฟิลเลอร์เองก็มีส่วนผสมของยาชา (Lidocane) อยู่ด้วย
หลังยาชาเริ่มหาย บางคนก็อาจจะไม่รู้สึกเจ็บเลย บางคนอาจมีอาการปวดตึงเล็กน้อย แนะนำให้รับปรัทานยาแก้ปวด หรือยาที่แพทย์สั่งเพื่อบรรเทาอาการ
สรุปฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สาร Hyaluronic Acid หรือ HA หากฉีดฟิลเลอร์แท้ เมื่อฉีดแล้วจึงสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ปลอดภัย มั่นใจได้ถ้าฉีดโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้สนการฉีดฟิลเลอร์โดยตรง ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์ คือ การฉีดฟิลเลอร์ช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้า ช่วยเต็มเติมใบหน้า ใต้ตา ร่องแก้ม ริมฝีปากให้เต่งตึง
ทั้งนี้ ฟิลเลอร์ยังสามารถช่วยปรับสภาพผิวให้มีคุณภาพ ชุ่มชื้น และแข็งแรงขึ้น ทำให้หน้าดูเด็กลง ริ้วรอยและรอยหมองคล้ำดูจางลง ทั้งยังช่วยในเรื่องการชะลอวัยได้อีกด้วย