การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน เพราะช่วยลดร่องลึกจากข้างปีกจมูกถึงมุมปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กับการเลือกคลินิกและแพทย์ที่มีประสบการณ์ คือการรู้ว่า ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ห้ามอะไรบ้าง เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วขึ้น และช่วยให้อยู่ได้นานตามที่ควรจะเป็น หากไม่ปฏิบัติตามข้อห้ามเหล่านี้ อาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงหรือฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้
สารบัญ
ข้อห้ามในการสัมผัสและการเคลื่อนไหว
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้ว สิ่งแรกที่ ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ห้ามอะไรบ้าง คือการสัมผัสบริเวณที่ฉีดอย่างแรง เนื่องจากฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่สมบูรณ์ในช่วง 48-72 ชั่วโมงแรก
สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง
- งดกดหรือนวดบริเวณร่องแก้ม อย่างแรงเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตำแหน่งหรือกระจายไปบริเวณที่ไม่ต้องการ
- หลีกเลี่ยงการยิ้มหรือทำสีหน้าแรง ในช่วง 3 วันแรกหลังฉีด เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อบีบอัดฟิลเลอร์
- งดการแสดงอารมณ์ที่ต้องใช้กล้ามเนื้อหน้ามาก เช่น การหัวเราะแรง หรือการร้องไห้
- หลีกเลี่ยงการแตะหน้าบ่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ยังมีรอยเข็มอยู่
การไม่ปฏิบัติตามข้อห้ามเหล่านี้ อาจทำให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนที่ ส่งผลให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หรือเกิดความไม่สมมาตรบนใบหน้าได้
อาหารและเครื่องดื่มบางประเภทสามารถส่งผลต่อการฟื้นตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ได้ ดังนั้น ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ห้ามอะไรบ้าง ในเรื่องของการรับประทานจึงต้องระวังเป็นพิเศษ
อาหารและเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยง
- แอลกอฮอล์ เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะทำให้เลือดแข็งตัวได้ยาก เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ
- อาหารรสจัด รสเค็ม ที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการบวมมากขึ้น
- ของหมักดอง เช่น กิมจิ หรือผักดอง ที่อาจกระตุ้นการอักเสบ
- อาหารที่มีโซเดียมสูง เพราะทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ ส่งผลให้บวมนานขึ้น
- เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง ในปริมาณมาก เพราะอาจส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด
สิ่งที่แนะนำให้รับประทาน
- ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ดูดซับน้ำได้ดี
- อาหารที่มีวิตามินซี เพื่อช่วยในการสร้างคอลลาเจน
- ผลไม้สีเข้มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
ข้อห้ามเกี่ยวกับความร้อนและกิจกรรม
ความร้อนเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวได้เร็วกว่าปกติ ดังนั้นเมื่อพูดถึง ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ห้ามอะไรบ้าง เรื่องของความร้อนจึงต้องให้ความสำคัญอย่างมาก
กิจกรรมที่ต้องหลีกเลี่ยง
- ซาวน่าหรือสตีมห้องน้ำ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- การออกกำลังกายหนัก ที่ทำให้เหงื่อออกมากในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
- การอาบน้ำร้อนจัด ควรใช้น้ำอุ่นแทน
- การใช้ไดร์เป่าผมใส่หน้าโดยตรง หรือการอยู่ใกล้เตาไฟ
- การออกแดดแรงโดยไม่มีการป้องกัน ควรทาครีมกันแดดและใส่หมวก
- การนวดหน้าด้วยเครื่องมือที่ให้ความร้อน เช่น อุปกรณ์ RF หรือ HIFU
ทางเลือกที่ปลอดภัย
- เลือกออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดินหรือโยคะ
- อาบน้ำอุ่นและใช้เวลาสั้นๆ
- หากจำเป็นต้องออกแดด ให้ใช้ครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป
การดูแลผิวหลังฉีดฟิลเลอร์ต้องระมัดระวังในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ เพราะ ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ห้ามอะไรบ้าง รวมถึงการใช้สารบางชนิดที่อาจกระตุ้นการอักเสบ
ผลิตภัณฑ์ที่ควรหลีกเลี่ยง
- ครีมหรือเซรั่มที่มี AHA (Alpha Hydroxy Acid) เป็นเวลา 1 สัปดาห์
- ผลิตภัณฑ์ที่มี BHA (Beta Hydroxy Acid) เช่น Salicylic Acid
- ครีมที่มีวิตามิน A (Retinol/Tretinoin) บริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 1 สัปดาห์
- ผลิตภัณฑ์ขัดผิว หรือ facial scrub
- แป้งแต่งหน้าหนัก ในวันแรกหลังฉีด เพื่อให้รูเข็มหายสนิท
คำแนะนำในการใช้เครื่องสำอาง
- รอให้รูเข็มปิดสนิทก่อนแต่งหน้า (ประมาณ 4-6 ชั่วโมง)
- เลือกใช้เครื่องสำอางที่ไม่ระคายเคือง
- ล้างหน้าด้วยความอ่อนโยน ไม่ถูแรง
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่มีส่วนประกอบอ่อนโยน เช่น Hyaluronic Acid หรือ Ceramide
ท่าทางการนอนหลับส่งผลต่อรูปทรงของฟิลเลอร์ได้มาก โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่สมบูรณ์ ดังนั้น ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ห้ามอะไรบ้าง ในเรื่องการนอนจึงต้องให้ความสำคัญ
ท่าทางที่ควรหลีกเลี่ยง
- นอนตะแคงทับหน้า เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- นอนคว่ำ ที่อาจกดทับบริเวณที่ฉีด
- ใช้หมอนที่แข็งเกินไป หรือหมอนที่สูงมาก
- การนอนกรน ที่อาจทำให้เกิดแรงดันต่อใบหน้า
คำแนะนำสำหรับการนอน
- นอนหงายเป็นเวลา 3-5 คืนแรก
- ใช้หมอนรองศีรษะให้สูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อลดอาการบวม
- หากคุ้นเคยกับการนอนตะแคง ให้ใช้หมอนรองข้างหูแทนการนอนทับหน้า
- สวมหน้ากากหลับที่นุ่ม หากต้องการปกป้องบริเวณที่ฉีด
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ร่องแก้มก่อนและหลัง : เทคนิคการเติมเต็มใบหน้าให้ดูละมุนสวย
บทสรุป
การรู้ว่า ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ห้ามอะไรบ้าง เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ฟิลเลอร์อยู่ได้นานตามที่ควรจะเป็น และลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง ข้อห้ามหลักๆ ที่ต้องจำไว้ ได้แก่ การหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดแรง การงดอาหารและเครื่องดื่มที่กระตุ้นการอักเสบ การหลีกเลี่ยงความร้อน การเลือกใช้เครื่องสำอางอย่างระมัดระวัง และการนอนในท่าทางที่เหมาะสม
การปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านี้อย่างเคร่งครัดเป็นเวลา 2 สัปดาห์แรก จะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่สวยงามและปลอดภัยที่สุด อย่าลืมว่าหากมีข้อสงสัยหรือเกิดอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการฉีดทันทีเพื่อการดูแลที่เหมาะสม