ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม ? : เจาะลึกทุกความเสี่ยงที่คุณควรรู้

ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม? เจาะลึกทุกความเสี่ยงที่คุณควรรู้

คำถามสำคัญที่หลายคนกังวลคือ “ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม?” หากคุณกำลังมองหาวิธีปรับแต่งสัดส่วนให้สวยงามโดยไม่ต้องพึ่งการศัลยกรรม คำว่า “ฟิลเลอร์สะโพก” อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังอยากปรับแต่งสะโพก

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงและความปลอดภัยของการฉีดฟิลเลอร์สะโพกอย่างครบถ้วน เพื่อให้คุณมีข้อมูลเพียงพอก่อนการตัดสินใจ

สารบัญ

ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม? ความจริงที่ต้องรู้

การฉีดฟิลเลอร์สะโพกเป็นวิธีการเสริมสะโพกโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ความจริงที่หลายคนอาจไม่ทราบคือ ฟิลเลอร์สะโพกเป็นตำแหน่งที่อันตรายมาก หากไม่ได้รับการฉีดอย่างถูกวิธีหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม? ความจริงที่ต้องรู้

ข้อเท็จจริงที่สำคัญคือ การฉีดฟิลเลอร์สะโพกต้องใช้ปริมาณมากกว่า 100 CC ซึ่งมากกว่าการฉีดบริเวณใบหน้าหลายสิบเท่า ทำให้มีความเสี่ยงจากผลข้างเคียงสูงมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ที่ฉีดอาจย้อยเป็นก้อนแข็งหลังจากฉีดไปได้ไม่นาน โดยเฉพาะเมื่อใช้ฟิลเลอร์เกรดต่ำหรือผลิตภัณฑ์ปลอม

อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์สะโพก เติมเต็มสะโพกและก้นให้เด้งสวย โดยแพทย์ด้านผิวหนัง

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่พบได้จากฟิลเลอร์สะโพก

การตัดสินใจว่า ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม ต้องเข้าใจความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรงที่สุด ดังนี้

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่พบได้จากฟิลเลอร์สะโพก

ความเสี่ยงที่พบได้บ่อย

  • การบวมและรอยช้ำ – หลังการฉีดฟิลเลอร์สะโพก ผู้เข้ารับบริการมักมีอาการบวมและมีรอยช้ำในบริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการปกติที่จะหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์
  • ฟิลเลอร์เป็นก้อน – ปัญหาที่พบบ่อยคือฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนแข็งใต้ผิวหนัง โดยเฉพาะเมื่อฉีดในปริมาณมาก (200 CC ขึ้นไป) หรือฉีดในชั้นผิวที่ไม่เหมาะสม
  • ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หรือย้อย – เมื่อเวลาผ่านไป ฟิลเลอร์อาจเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งเดิม ทำให้รูปทรงของสะโพกผิดรูปไป โดยเฉพาะเมื่อใช้ฟิลเลอร์คุณภาพต่ำหรือฉีดโดยผู้ไม่มีความชำนาญจริง
  • ความไม่สมมาตร – การฉีดที่ไม่เท่ากันทั้งสองข้างอาจทำให้เกิดความไม่สมมาตรของสะโพกซ้ายและขวา ซึ่งแก้ไขได้ยาก
รวมปัจจัยที่ทำให้การฉีดฟิลเลอร์สะโพก เกิดความเสี่ยง

ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง

  • การติดเชื้อ – มีความเสี่ยงของการติดเชื้อในตำแหน่งที่ฉีด โดยเฉพาะหากอุปกรณ์หรือฟิลเลอร์ไม่สะอาด หรือการฉีดไม่ได้ทำในสภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อ
  • อุดตันในเส้นเลือด (Vascular Occlusion) – ภาวะร้ายแรงที่เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในเส้นเลือด ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ อาจนำไปสู่การตายของเนื้อเยื่อ (Tissue Necrosis) หรือแม้กระทั่งการเกิดลิ่มเลือดที่อาจลุกลามไปยังอวัยวะสำคัญ
  • ปฏิกิริยาแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) – บางคนอาจเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงต่อส่วนประกอบในฟิลเลอร์ ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการช็อก หมดสติ และในกรณีร้ายแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะเมื่อใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือฟิลเลอร์ปลอม
  • ปัญหาระยะยาว – เมื่อใช้ฟิลเลอร์เกรดต่ำหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการรับรอง อาจเกิดการอักเสบเรื้อรัง การสร้างแกรนูโลมา (granuloma) หรือการตกค้างของสารในร่างกายที่ไม่สามารถสลายได้หมด

ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง

ความเสี่ยงและความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อนจาก ฟิลเลอร์สะโพก มักเพิ่มขึ้นจากปัจจัยต่อไปนี้

  • คุณภาพของฟิลเลอร์ – ฟิลเลอร์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐานมีความเสี่ยงสูงมาก
  • ปริมาณฟิลเลอร์ – การฉีดในปริมาณมากเกินไปเพิ่มโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน
  • ประสบการณ์ของผู้ฉีด – การฉีดโดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์หรือแพทย์ที่ขาดประสบการณ์เฉพาะด้าน
  • สุขอนามัย – การฉีดในสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐานทางการแพทย์

จากความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่กล่าวมา ทำให้หลายคนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่า ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม สำหรับตนเอง และควรเลือกวิธีการที่ปลอดภัยกว่าหรือไม่

ฟิลเลอร์สะโพกที่ปลอดภัยมีจริงหรือไม่?

แม้จะมีความเสี่ยง แต่ก็มีฟิลเลอร์สะโพกที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยในปัจจุบัน เช่น ฟิลเลอร์ Variofill ที่นำเข้าจากเยอรมัน และได้รับการจดทะเบียนจากองค์การอาหารและยา (อย.) ในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรอง แต่ ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญอื่น ๆ ดังนี้

  • ประสบการณ์ของแพทย์ผู้ฉีด – แพทย์ต้องมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์สะโพกโดยเฉพาะ
  • เทคนิคการฉีด – ต้องฉีดในชั้นไขมัน (Subcutaneous Fat Layer) ที่เหมาะสม
  • ปริมาณที่ใช้ – ไม่ควรฉีดมากเกินไป ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงสูงขึ้น
  • สภาพร่างกายของผู้รับการฉีด – บางคนอาจมีความเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นเนื่องจากโรคประจำตัวหรือสภาพร่างกาย

เปรียบเทียบความเสี่ยง การฉีดฟิลเลอร์สะโพก Vs การผ่าตัดเสริมสะโพก

เมื่อพิจารณาว่า ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม เทียบกับการผ่าตัดเสริมสะโพก มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

ประเด็นฉีดฟิลเลอร์สะโพกผ่าตัดเสริมสะโพก
ระดับการรุกล้ำไม่ต้องผ่าตัดต้องผ่าตัด
ระยะเวลาการพักฟื้นไม่ต้องพักฟื้นพักฟื้น 1-2 สัปดาห์
ความถาวรอยู่ได้ 1- 2 ปีผลลัพธ์อยู่ได้ถาวร
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 35,000 บาทเริ่มต้น 100,000 บาท
ความเสี่ยงต่อผลแทรกซ้อนมีความเสี่ยงสูงหากฉีดโดยผู้ไม่เชี่ยวชาญมีความเสี่ยงจากการผ่าตัด

จากตารางเปรียบเทียบ จะเห็นได้ว่าถึงแม้การฉีดฟิลเลอร์สะโพกจะไม่ต้องผ่าตัด แต่เมื่อพิจารณาเรื่องค่าใช้จ่ายและความถาวรแล้ว การผ่าตัดเสริมสะโพกอาจคุ้มค่ากว่าในระยะยาว

คำแนะนำในการตัดสินใจเลือกวิธีเสริมสะโพก

จากประเด็น ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม นี้ ผู้เชี่ยวชาญมีคำแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาเสริมสะโพก ดังนี้

1.ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ – ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการเสริมสะโพกโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์หรือการผ่าตัด

2.พิจารณาทางเลือกอื่น – การผ่าตัดเสริมสะโพกด้วยซิลิโคนอาจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและคุ้มค่ากว่าในระยะยาว

3.ตรวจสอบมาตรฐานคลินิก – เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน

4.ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ – หากเลือกฉีดฟิลเลอร์ ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. เท่านั้น

5.เตรียมตัวให้พร้อม – ศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน และทำความเข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

บทสรุป

เมื่อสงสัยว่า “ฟิลเลอร์สะโพกอันตรายไหม?” คำตอบคือ มีความเสี่ยงสูงและอันตรายได้ หากไม่ได้รับการฉีดอย่างถูกวิธีหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อเทียบกับการผ่าตัดเสริมสะโพก การฉีดฟิลเลอร์อาจไม่คุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในแง่ของค่าใช้จ่ายและความถาวรของผลลัพธ์

การตัดสินใจเลือกวิธีเสริมสะโพกควรพิจารณาจากข้อมูลที่ครบถ้วน คำแนะนำจากแพทย์ผู้มีประสบการณ์ และการประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยที่สุด

หมอฉีดฟิลเลอร์ที่ดี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า