การเติมฟิลเลอร์หน้าผากกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ และริ้วรอยบริเวณหน้าผากได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องผ่าตัดที่ซับซ้อนและใช้เวลาพักฟื้นนาน การเติมฟิลเลอร์หน้าผากจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้สมส่วน เพิ่มความมั่นใจ และยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งตามความเชื่อเรื่องวาสนาชะตาอีกด้วย
สารบัญ
การเติมฟิลเลอร์หน้าผากเป็นหัตถการเสริมความงามที่ใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ฉีดเข้าไปในชั้นเยื่อหุ้มกระดูกบริเวณหน้าผาก เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ดังนี้
- หน้าผากแบน ที่ขาดมิติและความโค้งมนตามธรรมชาติ
- หน้าผากยุบ บุ๋ม โดยเฉพาะบริเวณเหนือคิ้วที่มักยุบตัวเมื่ออายุมากขึ้น
- ริ้วรอยและร่องลึก บนหน้าผากที่เกิดขึ้นตามวัย
- หน้าผากที่ขาดความสมดุล ทำให้ใบหน้าดูไม่ได้สัดส่วน
- ต้องการปรับโหงวเฮ้ง เพื่อเสริมดวงชะตาด้านหน้าที่การงานและการเงิน
ผลลัพธ์จากการเติมฟิลเลอร์หน้าผากจะเห็นได้ทันที ทำให้หน้าผากดูเต่งตึง ชุ่มชื้น และมีมิติมากขึ้น
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์หน้าผาก อันตรายจริงไหม? คลายทุกข้อสงสัยก่อนฉีด
ปริมาณและราคาในการเติมฟิลเลอร์หน้าผาก
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการเติมฟิลเลอร์หน้าผากจะแตกต่างกันตามความต้องการและปัญหาของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปมีดังนี้
สำหรับแก้ไขริ้วรอยหรือร่องเหนือคิ้ว
- ใช้ประมาณ 1-2 cc
- ราคา 14,000-16,900 บาท/cc
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพียงเติมเต็มให้หน้าผากเรียบเนียน
สำหรับปรับรูปหน้าผากให้โหนกนูน
- ใช้ประมาณ 3-10 cc (แนะนำให้เริ่มที่ 3-5 cc แล้วค่อยเติมเพิ่ม)
- ไม่ควรฉีดเกิน 5 cc ต่อครั้ง
- ราคารวมประมาณ 42,000-169,000 บาท (ขึ้นอยู่กับปริมาณและยี่ห้อ)
เทคนิคการเติมฟิลเลอร์หน้าผากให้ได้ผลดี
การเติมฟิลเลอร์หน้าผากที่จะให้ผลลัพธ์สวยงามและปลอดภัยต้องใช้เทคนิคที่ถูกต้อง ซึ่งมีหลักการสำคัญคือ
- ฉีดในชั้นที่เหมาะสม – ต้องฉีดในชั้นเยื่อหุ้มกระดูกเท่านั้น ไม่ใช่ชั้นกล้ามเนื้อ
- เลือกจุดฉีดที่ปลอดภัย – หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีเส้นเลือดสำคัญ
- ใช้ฟิลเลอร์คุณภาพดี – เลือกฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน เช่น Juvederm Volbella, Restylane Vital
- ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ – ต้องมีความรู้ด้านกายวิภาคและประสบการณ์
เมื่อฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง หน้าผากจะเรียบเนียน ไม่เป็นคลื่น ไม่เป็นก้อน และฟิลเลอร์จะไม่ไหลย้อย
แม้ว่าการเติมฟิลเลอร์หน้าผากจะปลอดภัยเมื่อทำกับแพทย์ผู้ที่มีประสบการณ์ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ควรทราบ
ความเสี่ยงหลัก
- การอุดตันของเส้นเลือดที่เชื่อมกับดวงตา
- หน้าผากเป็นคลื่นหรือเป็นก้อนจากการฉีดไม่ถูกเทคนิค
- การติดเชื้อหากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ
วิธีป้องกันความเสี่ยง
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีใบอนุญาต
- ตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ก่อนฉีดทุกครั้ง
- ปฏิบัติตามคำแนะนำก่อนและหลังการรักษาอย่างเคร่งครัด
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์หน้าผาก อันตรายไหม? เรื่องเสี่ยงที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีด
ข้อปฏิบัติก่อนและหลังเติมฟิลเลอร์หน้าผาก
ก่อนเติมฟิลเลอร์หน้าผาก
- งดยาแอสไพริน NSAIDs และวิตามินที่ต้านการแข็งตัวของเลือด 2 สัปดาห์
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 24-48 ชั่วโมง
- ศึกษาข้อมูลคลินิกและผลงานของแพทย์
หลังเติมฟิลเลอร์หน้าผาก
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคง 7-14 วัน
- งดกิจกรรมที่ทำให้ได้รับความร้อน 1 เดือน
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
- สังเกตอาการผิดปกติและปรึกษาแพทย์ทันที
การเติมฟิลเลอร์หน้าผาก VS การผ่าตัดเสริมหน้าผาก
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการเติมฟิลเลอร์หน้าผากกับการผ่าตัดเสริมหน้าผาก สามารถสรุปเป็นตารางได้ดังนี้
หัวข้อเปรียบเทียบ การเติมฟิลเลอร์หน้าผาก การผ่าตัดเสริมหน้าผาก
วิธีการ ฉีดสารเติมเต็ม HA ใส่ซิลิโคนผ่านการผ่าตัด
ระยะเวลาทำ 30-60 นาที 1-2 ชั่วโมง
แผลผ่าตัด ไม่มีแผล มีเพียงรอยเข็ม มีแผลยาวในไรผม
ระยะเวลาพักฟื้น 7-14 วัน 1-2 เดือน
ผลลัพธ์ เห็นผลทันที ต้องรอบวมยุบ 1-2 เดือน
ความถาวร อยู่ได้ 12-18 เดือน ถาวร
การปรับแต่ง ปรับเพิ่ม-ลดได้ง่าย ต้องผ่าตัดใหม่
ความเจ็บปวด เจ็บน้อย มียาชา เจ็บมาก ต้องดมยาสลบ
ค่าใช้จ่าย 42,000-170,000 บาท 80,000-200,000 บาท
ความเสี่ยง ต่ำ (เมื่อทำกับผู้เชี่ยวชาญ) สูงกว่า มีภาวะแทรกซ้อนผ่าตัด
การแก้ไข ฉีดสลายได้ ต้องผ่าตัดออก
บทสรุป
การเติมฟิลเลอร์หน้าผากเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาหน้าผากแบน ยุบ หรือมีริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่าตัด ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ และมีความปลอดภัยสูงเมื่อทำกับแพทย์ผู้ที่มีประสบการณ์ แม้ว่าจะต้องเติมซ้ำเมื่อฟิลเลอร์สลายตัว แต่ก็คุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้และความเสี่ยงที่น้อยกว่าการผ่าตัด สำหรับผู้ที่สนใจเติมฟิลเลอร์หน้าผาก ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของตนเอง