ปัญหาหลุมสิวเป็นความกังวลของหลายคนที่ส่งผลต่อความมั่นใจในตัวเอง แม้ว่าปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีการรักษาหลุมสิวหลายประเภท แต่ Fractora ถือเป็นนวัตกรรมล่าสุดที่โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพการรักษาที่เหนือกว่าและความปลอดภัยสูง เทคโนโลยี Fractora ใช้หลักการคลื่นความถี่วิทยุแบบแฟรกชั่นนอล (Fractional Radio Frequency) ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (US FDA) ทำให้กลายเป็นทางเลือกแรกสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาหลุมสิวอย่างมีประสิทธิภาพ
การเลือกใช้ Fractora ในการรักษาหลุมสิวไม่เพียงแต่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนเท่านั้น แต่ยังมีความปลอดภัยสูงและเหมาะสำหรับทุกสีผิว อีกทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาผิวหนังอื่นๆ ได้ในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการกระชับผิว ลดริ้วรอย หรือปรับปรุงผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดีขึ้น
สารบัญ
Fractora คืออะไร? เทคโนโลยีการรักษาหลุมสิวยุคใหม่
Fractora เป็นเทคโนโลยีการรักษาผิวหนังขั้นสูงที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุแบบแฟรกชั่นนอล (Fractional Radio Frequency) ในการแก้ไขปัญหาโครงสร้างผิวหนัง โดยเฉพาะหลุมสิวและแผลเป็นต่างๆ นวัตกรรมนี้ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท InMode และได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (US FDA)
ความพิเศษของเทคโนโลยี Fractora
เทคโนโลยี Fractora มีความโดดเด่นจากการใช้ระบบ Fractional RF ที่ส่งพลังงานคลื่นความถี่วิทยุผ่าน pin เข้าไปในผิวหนังชั้นลึก ซึ่งแตกต่างจากเลเซอร์ทั่วไปที่ใช้แสง เทคโนโลยีนี้จึงมีความปลอดภัยสูงกว่าและเหมาะสำหรับผิวทุกสีผิว
หลักการทำงานของ Fractora อาศัยการสร้างความร้อนในผิวหนังชั้นลึก ซึ่งจะกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่และปรับปรุงการเรียงตัวของคอลลาเจนเดิมให้ดีขึ้น ผลที่ตามมาคือผิวหนังจะแข็งแรงขึ้น มีความยืดหยุ่น และสามารถฟื้นฟูโครงสร้างที่เสียหายจากหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การรับรองมาตรฐานสากล
การที่ Fractora ได้รับการรับรองจาก US FDA เป็นหลักประกันว่าเทคโนโลยีนี้มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมั่นใจในการเลือกใช้บริการนี้ นอกจากนี้ Fractora ยังได้รับรางวัลยอดสั่งซื้อสูงสุดจาก InMode ในปี 2020 ซึ่งสะท้อนถึงความนิยมและความไว้วางใจจากแพทย์และผู้ป่วยทั่วโลก
การทำงานและหลักการของ Fractora
หลักการ Fractional Photothermolysis
Fractora ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Fractional Photothermolysis ซึ่งเป็นการรักษาผิวทีละส่วนโดยไม่รบกวนเนื้อเยื่อบริเวณข้างเคียง คลื่นความถี่วิทยุจะถูกส่งผ่าน pin ขนาดเล็กเข้าไปในผิวหนังชั้นแท้ (Dermis) สร้างความร้อนในบริเวณที่ต้องการรักษาเท่านั้น
กระบวนการทำลายและสร้างใหม่
เมื่อพลังงานความร้อนจาก Fractora เข้าสู่ผิวหนัง จะเกิดกระบวนการทำลายเซลล์ผิวที่อ่อนแอและเสื่อมสภาพ พร้อมกับกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงกว่า กระบวนการนี้จะช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นและผิวหนังมีความเรียบเนียนมากขึ้น
การทำงานของ Fractora สามารถปรับระดับความลึกและความแรงของพลังงานได้ตามความเหมาะสมของแต่ละผู้ป่วย ทำให้แพทย์สามารถออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ข้อดีของการไม่ใช้แสงเลเซอร์
การที่ Fractora ใช้คลื่นความถี่วิทยุแทนแสงเลเซอร์ทำให้มีข้อดีหลายประการ คือ ปลอดภัยสำหรับทุกสีผิว ไม่ต้องกังวลเรื่องการเกิดจุดด่างดำหลังการรักษา และสามารถรักษาได้ตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องหลีกเลี่ยงช่วงที่มีแสงแดดจัด
ประเภทหลุมสิวที่ Fractora สามารถรักษาได้
Rolling Scar (หลุมสิวแบบแอ่งกระทะ)
Rolling Scar เป็นหลุมสิวแบบตื้นที่มีลักษณะเป็นแอ่งเว้าลงไป ไม่ลึกมาก เกิดจากการที่เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังถูกทำลาย Fractora สามารถรักษา Rolling Scar ได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในบริเวณที่เสียหายได้อย่างตรงจุด
การรักษา Rolling Scar ด้วย Fractora มักให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะเวลาไม่นาน โดยผู้ป่วยจะสังเกตเห็นการปรับปรุงของผิวหนังตั้งแต่การรักษาครั้งแรก และจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นหลังจากรักษา 2-3 ครั้ง
Box Scar (หลุมสิวแบบกล่อง)
Box Scar เป็นหลุมสิวที่มีลักษณะเป็นบ่อว้าง มีขอบชัดเจน และลึกประมาณ 3-5 มิลลิเมตร หลุมสิวประเภทนี้มักมีพังผืดเกาะติดในชั้นหนังแท้ ทำให้การรักษาต้องใช้เวลามากกว่าประเภทอื่น
Fractora สามารถรักษา Box Scar ได้ดีเนื่องจากสามารถส่งพลังงานเข้าไปในระดับความลึกที่แตกต่างกันได้ ทำให้สามารถทำลายพังผืดและกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Ice Pick Scar (หลุมสิวแบบจิกลึก)
Ice Pick Scar เป็นหลุมสิวที่ลึกที่สุด มีปากแผลแคบแต่ลึกลงไปถึงชั้นผิวหนังแท้ การรักษาหลุมสิวประเภทนี้ต้องใช้เวลานานและต้องรักษาหลายครั้ง
แม้ว่า Fractora จะสามารถรักษา Ice Pick Scar ได้ แต่อาจต้องใช้เวลานานกว่าและอาจต้องรวมกับการรักษาแบบอื่นเพิ่มเติม เช่น การเลาะพังผืดก่อนการรักษาด้วย Fractora ผลลัพธ์ที่ได้คือหลุมสิวจะตื้นขึ้นและไม่เด่นชัดเหมือนเดิม
การรักษาปัญหาผิวหนังอื่น ๆ
นอกจากหลุมสิวแล้ว Fractora ยังสามารถรักษาปัญหาผิวหนังอื่นๆ ได้ ดังนี้
- ริ้วรอยแห่งวัย
- ผิวหย่อนคล้อย
- รูขุมขนกว้าง
- จุดด่างดำและรอยฝ้า
- แผลเป็นจากการผ่าตัด
- การปรับปรุงผิวให้เรียบเนียนโดยรวม
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ อยากฉีดแต่ไม่อยากเสี่ยง เรื่องต้องรู้ก่อนฉีด
ขั้นตอนก่อนการรักษา
ก่อนเริ่มการรักษาด้วย Fractora แพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวหนังและปัญหาที่ต้องการแก้ไข จากนั้นจะอธิบายแผนการรักษาที่เหมาะสม รวมถึงจำนวนครั้งที่ต้องรักษาและระยะห่างระหว่างการรักษาแต่ละครั้ง
ในวันที่เข้ารับการรักษา ผู้ป่วยจะได้รับการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างละเอียด จากนั้นแพทย์จะทายาชาเฉพาะที่บริเวณที่จะรักษา และปล่อยให้ยาออกฤทธิ์ประมาณ 60 นาที เพื่อลดความเจ็บปวดระหว่างการรักษา
กระบวนการรักษา
การรักษาด้วย Fractora ใช้เวลาประมาณ 20-25 นาที สำหรับการรักษาทั้งใบหน้า ระหว่างการรักษา ผู้ป่วยจะรู้สึกถึงความร้อนและอาจมีความรู้สึกแสบเล็กน้อย แต่ไม่เจ็บปวดมาก เนื่องจากมีการใช้ยาชาและลมเย็นช่วยลดอาการ
แพทย์จะปรับระดับพลังงานและความลึกของการรักษาตามสภาพหลุมสิวและความต้องการของผู้ป่วยแต่ละราย พื้นที่ที่มีหลุมสิวลึกมากอาจได้รับพลังงานที่สูงกว่า ในขณะที่บริเวณที่ผิวบางกว่าจะใช้พลังงานที่อ่อนกว่า
ความถี่และจำนวนครั้งในการรักษา
สำหรับการรักษาหลุมสิวด้วย Fractora ที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุด ควรรักษา 4-6 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างครั้งละ 2-4 สัปดาห์ ระยะเวลานี้จำเป็นเพื่อให้ร่างกายมีเวลาสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาทดแทนเนื้อเยื่อที่เสียหาย
การรักษาแต่ละครั้งจะมีการปรับปรุงผิวหนังอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ป่วยจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่การรักษาครั้งแรก และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดหลังจากรักษาครบตามแผนที่กำหนด
ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้
หลังจากการรักษาด้วย Fractora ผู้ป่วยจะได้รับประโยชน์ดังนี้
- หลุมสิวตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ผิวหนังเรียบเนียนและนุ่มนวลกว่าเดิม
- ความยืดหยุ่นของผิวดีขึ้น
- รูขุมขนดูเล็กลง
- สีผิวสม่ำเสมอขึ้น
- ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์และมีเสน่ห์มากขึ้น
ระยะเวลาที่เห็นผลลัพธ์
ผลลัพธ์จากการรักษาด้วย Fractora จะปรากฏให้เห็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยผู้ป่วยจะเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 2-4 สัปดาห์หลังการรักษา และจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดใน 2-3 เดือนหลังการรักษาครั้งสุดท้าย
กลุ่มผู้ป่วยที่ไม่ควรรับการรักษา
ก่อนตัดสินใจรักษาด้วย Fractora ผู้ป่วยควรแจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบ เนื่องจากมีกลุ่มผู้ป่วยบางกลุ่มที่ไม่เหมาะสมกับการรักษาด้วยวิธีนี้ ดังนี้
- ผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในร่างกาย
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้ที่เป็นเบาหวานและควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้
- ผู้ที่มีประวัติการเกิด Keloid หรือแผลเป็นผิดปกติ
การเตรียมตัวก่อนการรักษา
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยง ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
- หยุดการใช้ยา Isotretinoin อย่างน้อย 6 เดือนก่อนการรักษา
- หยุดการใช้ยา NSAIDS เช่น ibuprofen อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการรักษา
- หลีกเลี่ยงการอาบแดดหรือใช้ผลิตภัณฑ์ทำสีผิวแทนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการรักษา
- แจ้งแพทย์หากเคยรับการรักษาด้วย IPL, laser, หรือ RF ในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา
อาการหลังการรักษา
หลังการรักษาด้วย Fractora ผู้ป่วยอาจประสบอาการข้างเคียงเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นอาการปกติและจะหายไปเอง ได้แก่
- ผิวแดง (Erythema) และรู้สึกแสบคล้ายถูกแดดเผา
- อาจมีการบวมเล็กน้อย โดยเฉพาะรอบดวงตา
- อาการบวมอาจคงอยู่ ควรประคบเย็นและนอนหนุนศีรษะให้สูง
- เริ่มมีจุดแดงเล็กๆ ปรากฏในบริเวณที่รักษา
- ผิวเริ่มลอกเป็นขรุยเล็กๆ ซึ่งจะหลุดออกเองตามธรรมชาติ
- ห้ามแกะหรือขูดผิวที่กำลังลอกออก
การดูแลหลังการรักษา
การดูแลตัวเองหลังการรักษาเพื่อให้การรักษาได้ผลดีที่สุดและลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อน ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
การดูแลความชุ่มชื้น
- ทาครีมบำรุงผิว (Moisturizer) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- เลือกใช้ครีมที่ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดการระคายเคือง
- ทาครีมบ่อยๆ เพื่อป้องกันผิวแห้งเกินไป
การป้องกันแสงแดด
- ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป
- หลีกเลี่ยงการออกแสงแดดจัดในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการรักษา
- สวมหมวกหรือใช้ร่มเมื่อต้องออกแสงแดด
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- ไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของกรดต่างๆ
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักที่ทำให้เหงื่อออกมากใน 2-3 วันแรก
- ไม่ควรไปซาวน่าหรืออบไอน้ำในสัปดาห์แรกหลังการรักษา
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ ที่ไหนดี ให้ได้ผลลัพธ์ปลอดภัย
บทสรุป
โปรแกรม Fractora เป็นเทคโนโลยีการรักษาหลุมสิวที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง ด้วยการใช้คลื่นความถี่วิทยุแบบแฟรกชั่นนอล ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาหลุมสิวได้ทุกประเภท พร้อมกับปรับปรุงสภาพผิวโดยรวม การได้รับการรับรองจาก US FDA เป็นหลักประกันในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
การรักษาด้วย Fractora เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาหลุมสิวอย่างถาวรและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเจ็บปวดมากหรือระยะเวลาพักฟื้นที่นาน อย่างไรก็ตาม การเลือกรับการรักษาควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
สำหรับผู้ที่สนใจการรักษาหลุมสิวด้วย Fractora ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การรักษาด้วย Fractora ไม่เพียงแต่จะช่วยแก้ไขปัญหาหลุมสิวเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนในความงามและความมั่นใจที่จะติดตามมาตลอดไป

