ฟิลเลอร์ขมับเจ็บไหม และจะเจ็บในระดับไหน ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแพทย์ และเทคนิคต่าง ๆ เนื่องจากบริเวณขมับเป็นพื้นที่ที่มีเส้นประสาทและหลอดเลือดจำนวนมาก การทำความเข้าใจเกี่ยวกับระดับความเจ็บปวดและวิธีการจัดการกับอาการเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณเตรียมตัวและตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
สารบัญ
ฟิลเลอร์ขมับคืออะไร และทำไมถึงอาจเจ็บ
ฟิลเลอร์ขมับ เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในบริเวณขมับ เพื่อเพิ่มปริมาตรและความอิ่มเต็มให้กับพื้นที่ที่บุ๋มลึก ซึ่งมักเกิดจากการสูญเสียไขมันและคอลลาเจนตามอายุ สารที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็น Hyaluronic Acid (HA) ที่มีความปลอดภัยสูง ฟิลเลอร์ขมับเจ็บไหม อาจมีความเจ็บบ้างเล็กน้อย เนื่องด้วยปัจจัยสำคัญดังนี้
- บริเวณขมับมีเส้นประสาทหลายเส้นที่ไวต่อการสัมผัส
- ผิวหนังในบริเวณนี้บางกว่าบริเวณอื่น
- การแทงเข็มเข้าไปในเนื้อเยื่อจะก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บตามธรรมชาติ
- การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อขณะฉีดอาจทำให้รู้สึกไม่สบาย
หลายคนที่สงสัยว่า ฟิลเลอร์ขมับเจ็บไหม จะดีใจที่ทราบว่าความเจ็บมักอยู่ในระดับที่ทนได้ โดยสามารถจำแนกได้ดังนี้
ระหว่างการฉีด
- ความเจ็บระดับ 3-5 จาก 10 (10 คือเจ็บมากที่สุด)
- รู้สึกเหมือนถูกเข็มแทง แล้วตามด้วยความรู้สึกตึงหรือกดดัน
- ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ฉีด
- ความเจ็บจะลดลงทันทีหลังจากเข็มออกจากผิว
หลังการฉีด
- อาจมีอาการเจ็บ ชา หรือตึงได้ 1-3 วัน
- ความเจ็บระดับ 2-4 จาก 10
- อาจมีอาการบวมและแดงเล็กน้อย
- รู้สึกเหมือนมีแรงกดดันในบริเวณที่ฉีด
การเปรียบเทียบกับหัตถการอื่น
- เจ็บมากกว่าการฉีดริมฝีปากเล็กน้อย
- เจ็บน้อยกว่าการฉีดใต้ตา
- เจ็บใกล้เคียงกับการฉีดแก้ม
สำหรับผู้ที่กังวลเรื่อง ฟิลเลอร์ขมับเจ็บไหม ควรทราบว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อระดับความเจ็บ มีดังนี้
ปัจจัยจากตัวผู้รับการรักษา
- ความไวต่อความเจ็บ: แต่ละคนมีความทนทานต่อความเจ็บที่ต่างกัน
- ความตึงเครียด: การวิตกกังวลจะทำให้รู้สึกเจ็บมากขึ้น
- สุขภาพผิว: ผิวที่แห้งหรือมีการอักเสบอาจเจ็บมากกว่า
- ช่วงฮอร์โมน: ผู้หญิงในช่วงประจำเดือนอาจรู้สึกเจ็บมากกว่าปกติ
ปัจจัยจากการรักษา
- ชนิดของฟิลเลอร์: ฟิลเลอร์บางชนิดมียาชาผสมอยู่
- ขนาดและความยาวของเข็ม: เข็มที่ใหญ่หรือยาวกว่าจะเจ็บมากกว่า
- เทคนิคการฉีด: แพทย์ที่มีประสบการณ์จะฉีดได้อย่างอ่อนโยน
- ปริมาณฟิลเลอร์: การฉีดปริมาณมากจะใช้เวลานานขึ้น
ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม
- บรรยากาศคลินิก: สถานที่ที่สะอาดและผ่อนคลายช่วยลดความเครียด
- การเตรียมตัว: การดูแลผิวก่อนการฉีดอย่างเหมาะสม
วิธีลดอาการเจ็บก่อนและระหว่างการฉีด
สำหรับผู้ที่ต้องการทราบว่า ฟิลเลอร์ขมับเจ็บไหม และต้องการลดความเจ็บ มีวิธีการดังนี้
ก่อนการฉีด
- ทายาชาเฉพาะที่: แพทย์จะทายาชาบริเวณที่จะฉีด 20-30 นาที ก่อนเริ่มหัตถการ
- ประคบเย็น: ใช้น้ำแข็งประคบ 5-10 นาที เพื่อชาบริเวณที่จะฉีด
- หลีกเลี่ยงยาบางชนิด: งดยาแอสไพริน วิตามินอี หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- พักผ่อนเพียงพอ: การนอนหลับเพียงพอจะช่วยลดความไวต่อความเจ็บ
ระหว่างการฉีด
- การหายใจลึก: หายใจลึก ๆ ช้า ๆ เพื่อผ่อนคลาย
- สนทนากับแพทย์: การพูดคุยจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ
- แจ้งระดับความเจ็บ: บอกแพทย์หากรู้สึกเจ็บมากเกินไป
- หลีกเลี่ยงการเกร็ง: การเกร็งกล้ามเนื้อจะทำให้เจ็บมากขึ้น
การใช้ยาชาพิเศษ
- ยาชาเฉพาะที่: Lidocaine หรือ Benzocaine
- ฟิลเลอร์ที่มียาชาผสม: เลือกฟิลเลอร์ที่มี Lidocaine ผสมอยู่แล้ว
- การฉีดยาชาเพิ่ม: สำหรับผู้ที่กลัวเจ็บมาก อาจขอยาชาเพิ่มเติม
การดูแลตัวเองหลังฉีดเพื่อลดความเจ็บปวด
หลังจากทราบคำตอบของ ฟิลเลอร์ขมับเจ็บไหม แล้ว สิ่งสำคัญคือการดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง ดังนี้
24 ชั่วโมงแรก
- ประคบเย็น: ประคบด้วยน้ำแข็งห่อผ้า 10-15 นาที ทุก 2-3 ชั่วโมง
- ยาแก้ปวด: ทานพาราเซตามอลตามที่แพทย์แนะนำ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส: ไม่นวดหรือกดบริเวณที่ฉีด
- นอนหงาย: เลี่ยงการนอนตะแคงไปข้างที่ฉีด
2-7 วันหลังฉีด
- ดื่มน้ำเพียงพอ: ช่วยให้ฟิลเลอร์กระจายตัวดี
- หลีกเลี่ยงอากาศร้อน: เลี่ยงซาวน่า อบไอน้ำ หรือการออกแดด
- งดการออกกำลังกายหนัก: เลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดแรง
- ติดตามอาการ: สังเกตการเปลี่ยนแปลงของอาการบวมและเจ็บ
อ่านเพิ่มเติม : หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ ดูแลตัวเองอย่างไรให้สวยอย่างปลอดภัย
บทสรุป
ฟิลเลอร์ขมับเจ็บไหม มีความเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่อยู่ในระดับที่ส่วนใหญ่ทนได้ และสามารถจัดการได้ด้วยการเตรียมตัวที่ดีและการดูแลที่เหมาะสม ความเจ็บจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปจะอยู่ในระดับ 3-5 จาก 10 ระหว่างการฉีด และลดลงเหลือ 2-4 หลังการฉีด การเลือกแพทย์ผู้ชำนาญการ การเตรียมตัวอย่างเหมาะสม และการดูแลตัวเองหลังการฉีดจะช่วยให้ประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย สิ่งสำคัญคือการสื่อสารกับแพทย์อย่างเปิดเผยเกี่ยวกับความกังวลและคาดหวัง เพื่อให้ได้รับการดูแลที่ดีที่สุดและผลลัพธ์ที่น่าพอใจ