HArmonyCa เป็นฟิลเลอร์ไฮบริดรุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในวงการความงาม คำถามที่หลายคนสงสัยคือ HArmonyCa ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง เนื่องจากฟิลเลอร์ชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป ด้วยส่วนผสมของไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) และแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite) ทำให้สามารถทั้งเติมเต็มและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ในเวลาเดียวกัน
บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ HArmonyCa พร้อมทั้งแนะนำตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการฉีด เพื่อให้คุณมีข้อมูลที่ครบถ้วนก่อนตัดสินใจเลือกทำทรีทเมนต์นี้
สารบัญ
HArmonyCa คืออะไร และมีความพิเศษอย่างไร
HArmonyCa เป็นฟิลเลอร์ไฮบริดที่พัฒนาโดยบริษัท Allergan Aesthetics ประกอบด้วยส่วนผสมหลักสองชนิด ได้แก่ ไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) และแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (CaHA) ในหลอดฉีดเดียวกัน ทำให้ได้ประโยชน์ทั้งสองอย่างในการรักษาเพียงครั้งเดียว
คุณสมบัติพิเศษของ HArmonyCa
- ผลลัพธ์ทันที – ส่วนประกอบของไฮยาลูรอนิกแอซิดจะช่วยเติมเต็มและให้ความชุ่มชื้นกับผิวทันทีหลังฉีด
- กระตุ้นคอลลาเจนระยะยาว – แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติของผิว ซึ่งจะเห็นผลดียิ่งขึ้นในช่วง 3-6 เดือนหลังการรักษา
- ผลลัพธ์นาน – ฟิลเลอร์ HArmonyCa สามารถอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและปัจจัยเฉพาะบุคคล
- มีลิโดเคนผสม – ช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการฉีด ทำให้การรักษาสบายขึ้น
HArmonyCa เหมาะสำหรับการฉีดในบริเวณกลางใบหน้าและส่วนล่างของใบหน้า ซึ่งมักเป็นบริเวณที่เกิดการหย่อนคล้อยและสูญเสียปริมาตรตามวัย โดยตำแหน่งหลักที่เหมาะสมสำหรับการฉีด HArmonyCa มีดังนี้
1. บริเวณแก้ม (Cheeks)
แก้มเป็นตำแหน่งที่นิยมฉีด HArmonyCa มากที่สุด เนื่องจากช่วยเพิ่มปริมาตรและความอิ่มเต็มให้กับใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ การฉีดในตำแหน่งนี้จะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ดี ดังนี้
- เพิ่มความอิ่มเต็มให้กับแก้มที่ยุบตัวตามวัย
- ยกกระชับโครงหน้าให้ดูเรียบเนียนขึ้น
- ปรับโครงสร้างกระดูกแก้มให้โดดเด่นขึ้น
- ลดเลือนร่องแก้มที่ลึกหรือร่องน้ำตา (Nasolabial folds)
2. บริเวณกราม (Jawline)
การฉีด HArmonyCa ตามแนวกรามช่วยเสริมความคมชัดและความแข็งแรงให้กับโครงหน้า ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดในตำแหน่งนี้ ได้แก่
- เพิ่มความคมชัดของเส้นกราม
- ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณคาง
- ลดความชัดเจนของรอยต่อระหว่างคอและกราม
- ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นและมีมิติมากขึ้น
3. ร่องแก้ม (Nasolabial Folds)
ร่องแก้ม หรือรอยย่นจากมุมจมูกถึงมุมปาก เป็นบริเวณที่มักเห็นได้ชัดเจนเมื่ออายุมากขึ้น การฉีด HArmonyCa ในบริเวณนี้จะช่วยในเรื่อง ดังนี้
- ลดความลึกของร่องแก้ม
- เติมเต็มรอยย่นให้ดูตื้นขึ้น
- ทำให้ผิวบริเวณร่องแก้มดูเรียบเนียนขึ้น
- ชะลอการเกิดรอยย่นเพิ่มเติมในอนาคต
4. รอยเหี่ยวย่นบริเวณใบหน้าด้านข้าง (Accordion Lines)
รอยเหี่ยวย่นแนวตั้งระหว่างหูและริมฝีปาก เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่สามารถปรับปรุงได้ด้วย HArmonyCa การฉีดในบริเวณนี้ช่วยในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
- ลดเลือนรอยเหี่ยวย่นแนวตั้งบริเวณด้านข้างของใบหน้า
- ปรับปรุงพื้นผิวให้เรียบเนียนขึ้น
- เสริมความยืดหยุ่นให้กับผิวบริเวณนี้
- ทำให้ใบหน้าดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น
5. บริเวณคาง (Chin)
การฉีด HArmonyCa ที่คางสามารถปรับโครงหน้าและเสริมความมั่นใจให้กับผู้ที่ต้องการเพิ่มความชัดเจนให้กับคางได้ โดยการฉีดในตำแหน่งนี้
- เพิ่มความยาวหรือปริมาตรให้กับคาง
- ปรับแต่งรูปคางให้มีความสมดุลกับใบหน้า
- ลดเลือนรอยบุ๋มที่คาง
- เสริมโครงหน้าส่วนล่างให้ดูแข็งแรงขึ้น
แม้ว่า HArmonyCa จะเป็นฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ก็มีบางตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมสำหรับการฉีด เนื่องจากความเสี่ยงหรือข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ
- บริเวณรอบดวงตา (Periocular Region) – เนื่องจากผิวบางและมีเส้นเลือดมาก
- ริมฝีปาก (Lips) – HArmonyCa ไม่เหมาะสำหรับการเพิ่มปริมาตรริมฝีปาก
- บริเวณรอบปาก (Perioral Area) – ไม่แนะนำให้ฉีดบริเวณนี้
- รอยย่นระหว่างคิ้ว (Glabellar Lines) – เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน
- ด้านในชั้นผิวหนังที่ตื้น (Superficial Dermis) – HArmonyCa ออกแบบมาสำหรับฉีดในชั้นผิวหนังที่ลึกกว่า
อ่านเพิ่มเติม : โปรแกรม HArmonyCa อันตรายไหม ? ข้อเท็จจริงที่ควรศึกษาก่อนฉีด
ข้อดีของการฉีด HArmonyCa เทียบกับฟิลเลอร์ทั่วไป
การเลือกฉีด HArmonyCa มีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ทั่วไปหลายประการ
- การรักษาแบบ 2 in 1 – ให้ทั้งผลลัพธ์ทันทีและการกระตุ้นคอลลาเจนระยะยาว ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำทรีทเมนต์แยกกัน
- ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น – การผสมผสานระหว่าง HA และ CaHA ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูอิ่มหรือพองเกินไป
- ระยะเวลาผลลัพธ์ที่นานขึ้น – สามารถอยู่ได้นานถึง 18 เดือน ซึ่งนานกว่าฟิลเลอร์ HA ทั่วไปที่อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน
- คุณภาพผิวที่ดีขึ้น – นอกจากการเพิ่มปริมาตรแล้ว ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม ทำให้ผิวดูกระชับ ยืดหยุ่น และเต่งตึงมากขึ้น
- ลดความถี่ในการทำทรีทเมนต์ – เนื่องจากผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น จึงช่วยลดความถี่ในการทำทรีทเมนต์ซ้ำเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ทั่วไป
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการฉีด HArmonyCa
การเตรียมตัวก่อนฉีด
ก่อนเข้ารับการฉีด HArmonyCa ควรเตรียมตัวดังนี้
- งดยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน 7-10 วันก่อนการรักษา
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ 24-48 ชั่วโมงก่อนการรักษา
- แจ้งประวัติการแพ้ยาหรือสารต่างๆ ให้แพทย์ทราบ
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของกรดหรือสารระคายเคือง 2-3 วันก่อนการรักษา
ระยะเวลาการรักษาและความเจ็บปวด
การฉีด HArmonyCa ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนตำแหน่งที่ต้องการฉีด ส่วนใหญ่ผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยถึงปานกลาง เนื่องจาก HArmonyCa มีส่วนผสมของลิโดเคนซึ่งช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการฉีด นอกจากนี้ แพทย์ยังอาจทายาชาเฉพาะที่ก่อนการรักษาเพื่อเพิ่มความสบายให้กับผู้รับการรักษาอีกด้วย
การดูแลหลังฉีด HArmonyCa
หลังจากฉีด HArmonyCa ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
- ประคบเย็นบริเวณที่มีอาการบวมหรือช้ำในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
- งดการออกกำลังกายหนัก 24-48 ชั่วโมงหลังการรักษา
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ อาบน้ำร้อน 1-2 สัปดาห์
- งดแต่งหน้าบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ผลข้างเคียงที่พบได้หลังการฉีด HArmonyCa ส่วนใหญ่มักเป็นอาการเล็กน้อยและหายไปได้เองภายในไม่กี่วัน ได้แก่
- บวม แดง ในบริเวณที่ฉีด (2-7 วัน)
- รอยช้ำ (5-10 วัน)
- รู้สึกไม่สบายหรือเจ็บเล็กน้อย
- อาจมีตุ่มนูนเล็กๆ ในช่วงแรก แต่จะค่อยๆ เรียบเนียนขึ้น
หากพบอาการผิดปกติ เช่น บวมมาก ปวดรุนแรง มีไข้ หรือผิวเปลี่ยนสี ควรติดต่อแพทย์ทันที
บทสรุป
HArmonyCa เป็นฟิลเลอร์ไฮบริดที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงรูปร่างใบหน้าและคุณภาพผิว ด้วยส่วนผสมของ HA และ CaHA ทำให้สามารถทั้งเติมเต็มและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ในการรักษาเพียงครั้งเดียว บริเวณที่เหมาะสมสำหรับการฉีด HArmonyCa ได้แก่ แก้ม กราม ร่องแก้ม รอยเหี่ยวย่นบริเวณใบหน้าด้านข้าง และคาง ในขณะที่บริเวณรอบดวงตา ริมฝีปาก บริเวณรอบปาก และรอยย่นระหว่างคิ้ว ไม่เหมาะสำหรับการฉีด HArmonyCa
การเลือกฉีด HArmonyCa ควรพิจารณาทั้งตำแหน่งที่ต้องการปรับปรุง ข้อบ่งชี้ ข้อห้าม และความคาดหวังในผลลัพธ์ การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเข้ารับการรักษาเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด นอกจากนี้ การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าการฉีด HArmonyCa จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย