HArmonyCa อันตรายไหม? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยเมื่อพิจารณาเลือกฟิลเลอร์ไฮบริดชนิดนี้เพื่อฟื้นฟูผิวและเสริมความงาม ในยุคที่การดูแลผิวและความงามเป็นเรื่องที่ผู้คนให้ความสำคัญ นวัตกรรมฟิลเลอร์ไฮบริดอย่าง HArmonyCa กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ HArmonyCa อย่างละเอียด ทั้งข้อดี ข้อควรระวัง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจก่อนเข้ารับการฉีด
สารบัญ
HArmonyCa คืออะไร และทำงานอย่างไร
HArmonyCa เป็นฟิลเลอร์ชนิดไฮบริดที่พัฒนาโดยบริษัท Allergan Aesthetics จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ผลิตฟิลเลอร์ Juvederm ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ความพิเศษของ HArmonyCa คือการผสมผสานสารสำคัญสองชนิดเข้าด้วยกัน ได้แก่
- Hyaluronic Acid (HA) สารที่ช่วยเติมเต็มริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น และให้ผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด
- Calcium Hydroxyapatite (CaHA) – สารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว
การทำงานของ HArmonyCa จึงเป็นแบบ “Dual Effect” คือ เห็นผลทันทีจากการเติมเต็มของ HA และได้ผลระยะยาวจากการกระตุ้นคอลลาเจนโดย CaHA ทำให้ผิวยกกระชับ มีความยืดหยุ่น และดูเต่งตึงขึ้น
อ่านเพิ่มเติม : HArmonyCa คืออะไร แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปอย่างไร ?
ความปลอดภัยของ HArmonyCa
เมื่อพูดถึงคำถามที่ว่า HArmonyCa อันตรายไหม? คำตอบคือ HArmonyCa มีความปลอดภัยสูงเมื่อฉีดโดยแพทย์ที่ผ่านการอบรมด้านการฉีดโปรแกรม HArmonyCa โดยตรง
- ได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก US-FDA และได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประเทศไทย
- ส่วนประกอบหลักทั้ง HA และ CaHA เป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ จึงมีความเข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อและระบบภูมิคุ้มกัน
- สามารถสลายตัวได้ตามธรรมชาติในร่างกาย จึงไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงระยะยาว
- มีการศึกษาวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์
อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญคือ แพทย์ผู้ทำการฉีดต้องมีความเชี่ยวชาญและเข้าใจกายวิภาคของใบหน้าอย่างลึกซึ้ง รวมถึงใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง
ผลข้างเคียงทั่วไปที่อาจพบได้หลังฉีด HArmonyCa
เช่นเดียวกับการทำหัตถการความงามอื่นๆ การฉีด HArmonyCa อาจมีผลข้างเคียงชั่วคราวที่พบได้ทั่วไป และมักหายไปเองภายใน 3-7 วัน ได้แก่
- อาการบวม บริเวณที่ฉีดอาจมีอาการบวมเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยเฉพาะในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
- รอยช้ำหรือจ้ำเลือด เกิดจากเข็มที่ใช้ในการฉีดไปกระทบเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนัง ซึ่งจะค่อยๆ จางหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์
- อาการแดง บริเวณที่ฉีดอาจมีอาการแดงเล็กน้อย เนื่องจากการตอบสนองของผิวต่อการบาดเจ็บ
- อาการคัน บางรายอาจมีอาการคันเล็กน้อย ซึ่งเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกายต่อสารแปลกปลอม
- ความเจ็บปวดหรือความไม่สบายผิว แม้ว่า HArmonyCa จะมียาชา Lidocaine ผสมอยู่ แต่อาจยังรู้สึกไม่สบายเล็กน้อยหลังการฉีด
ผลข้างเคียงเหล่านี้เป็นเรื่องปกติและไม่ได้แสดงว่า HArmonyCa อันตราย แต่เป็นการตอบสนองชั่วคราวของร่างกายต่อการทำหัตถการ
อ่านเพิ่มเติม : HArmonyCa ผลข้างเคียงที่ควรรู้ก่อนทำ | อาการที่พบบ่อยและวิธีรับมือ
ผลข้างเคียงที่พบได้น้อยแต่ควรเฝ้าระวัง
นอกจากผลข้างเคียงทั่วไปแล้ว ยังมีผลข้างเคียงที่พบได้น้อยแต่มีความเสี่ยงสูงกว่า ผู้เข้ารับบริการควรทราบและเฝ้าระวัง ได้แก่
- ก้อนนูนหรือปุ่มใต้ผิวหนัง อาจเกิดจากการกระจายตัวของสารไม่สม่ำเสมอ หรือฉีดในปริมาณมากเกินไปในจุดเดียว
- การติดเชื้อ แม้จะพบได้น้อยมาก แต่อาจเกิดขึ้นได้หากมีการปนเปื้อนระหว่างทำหัตถการ หรือการดูแลหลังฉีดไม่เหมาะสม
- ปฏิกิริยาแพ้ บางรายอาจเกิดการแพ้ต่อส่วนประกอบใน HArmonyCa โดยอาจมีอาการบวม แดง คัน หรือรู้สึกไม่สบายมากกว่าปกติ
- การอุดตันของหลอดเลือด เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้น้อยมากแต่มีความเสี่ยงสูง เกิดจากการฉีดสารเข้าหลอดเลือดโดยตรง
กรณีที่ควรปรึกษาแพทย์ทันที หากพบอาการผิดปกติเหล่านี้
- อาการปวด บวม หรือแดงที่รุนแรงหรือคงอยู่นานเกิน 1 สัปดาห์
- มีไข้หรืออาการของการติดเชื้อ
- ผิวเปลี่ยนสีอย่างผิดปกติ เช่น ซีดขาวผิดธรรมชาติ หรือคล้ำเขียว
- อาการชาหรือสูญเสียความรู้สึกบริเวณที่ฉีดหรือใกล้เคียง
- อาการแพ้รุนแรง เช่น หายใจลำบาก บวมที่ใบหน้าหรือลำคอ
ใครที่ไม่ควรฉีด HArmonyCa
มีบางกลุ่มคนที่อาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นเมื่อฉีด HArmonyCa และควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ ได้แก่
- ผู้ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในกลุ่มนี้
- ผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นต่อการติดเชื้อหรือการตอบสนองของร่างกายที่ผิดปกติ
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดรอยช้ำหรือเลือดออกมากกว่าปกติ
- ผู้ที่มีโรคผิวหนังอักเสบในบริเวณที่ต้องการฉีด ควรรักษาอาการให้หายดีก่อนการฉีด
- ผู้ที่แพ้สารประกอบในผลิตภัณฑ์ เช่น Lidocaine หรือ Hyaluronic Acid
- ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคอักเสบเรื้อรัง อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาการอักเสบที่รุนแรงขึ้น
วิธีลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในการฉีด HArmonyCa
หากคุณกังวลว่า HArmonyCa อันตรายไหม การเตรียมตัวอย่างเหมาะสมและการเลือกสถานที่ฉีดที่ได้มาตรฐานจะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก
ก่อนฉีด HArmonyCa
- เลือกแพทย์ผู้ชำนาญที่มีประสบการณ์และความรู้เฉพาะทางในการฉีด HArmonyCa
- แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว และการแพ้ยาให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด
- งดยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามินอี, น้ำมันปลา อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
- งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว หรือการทำเลเซอร์อย่างน้อย 3-5 วันก่อนฉีด
หลังฉีด HArmonyCa
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส กด หรือนวดบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดแรง เช่น การออกกำลังกายหนัก ซาวน่า หรืออบไอน้ำอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดในการดูแลหลังการฉีด
- สังเกตอาการผิดปกติและติดต่อแพทย์ทันทีหากมีข้อกังวล
บทสรุป
HArmonyCa อันตรายไหม คำตอบคือ ไม่ได้อันตรายเมื่อได้รับการฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญและได้รับการดูแลที่เหมาะสม ฟิลเลอร์ไฮบริดชนิดนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากหน่วยงานระดับสากลและมีส่วนประกอบที่เข้ากันได้ดีกับร่างกายมนุษย์
ผลข้างเคียงส่วนใหญ่มักเป็นเพียงอาการชั่วคราว เช่น บวม แดง หรือช้ำ ซึ่งหายได้เองภายในไม่กี่วัน ส่วนผลข้างเคียงรุนแรงพบได้น้อยมากหากทำโดยแพทย์ที่ผ่านการอบรมมาโดยตรง
การเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีประสบการณ์ การเตรียมตัวอย่างเหมาะสม และการปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการรักษา จะช่วยให้การฉีด HArmonyCa เป็นไปอย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ทั้งการยกกระชับผิวในทันทีและการฟื้นฟูโครงสร้างผิวในระยะยาว