ฟิลเลอร์คาง ใช้กี่ cc พร้อมคำแนะนำสำหรับมือใหม่

ฟิลเลอร์คาง ใช้กี่ cc พร้อมคำแนะนำสำหรับมือใหม่

ฟิลเลอร์คาง ใช้กี่ cc ถือเป็นคำถามยอดฮิตสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนจะเสริมคางให้สวยได้รูป เพราะการฉีดฟิลเลอร์คางในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยเติมเต็มโครงหน้าให้สมบูรณ์แบบ สร้างมิติให้ใบหน้า และช่วยแก้ไขปัญหาคางสั้น คางเล็ก หรือคางที่ไม่ได้สัดส่วน โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่หลายคนยังไม่แน่ใจว่าควรใช้ฟิลเลอร์คางปริมาณเท่าไรให้เหมาะกับตัวเอง

บทความนี้จะไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับปริมาณฟิลเลอร์คางที่เหมาะสม พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม

สารบัญ

ฟิลเลอร์คางคืออะไร และทำไมเรื่องปริมาณ cc จึงสำคัญ

ฟิลเลอร์คาง (Chin Filler) คือการใช้สารเติมเต็มที่มีส่วนประกอบหลักเป็นกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ฉีดเข้าไปในบริเวณคางเพื่อปรับโครงสร้าง เพิ่มปริมาตร และแก้ไขรูปทรงของคางให้ดูสวยงามได้สัดส่วน โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งเรื่องของปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ (วัดเป็น cc หรือ มิลลิลิตร) มีความสำคัญอย่างมากต่อผลลัพธ์ที่จะได้รับ

ฟิลเลอร์คางคืออะไร และทำไมเรื่องปริมาณ cc จึงสำคัญ

การใช้ฟิลเลอร์คางในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ดี ดังนี้

  • ได้รูปคางที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเทียมหรือแข็งเกินไป
  • แก้ไขปัญหาเฉพาะของคางได้ตรงจุด
  • ได้สัดส่วนใบหน้าที่สมดุล สอดคล้องกับองค์ประกอบอื่นๆ
  • ลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์มากเกินไป

ฟิลเลอร์คาง ใช้กี่ cc ตามประเภทปัญหา

ปริมาณฟิลเลอร์คางที่เหมาะสมแตกต่างกันไปตามประเภทของปัญหาคางที่ต้องการแก้ไข ตารางต่อไปนี้

ประเภทปัญหาคางปริมาณฟิลเลอร์เฉลี่ยลักษณะปัญหาผลลัพธ์ที่ได้
คางสั้น หรือคางเล็ก
(Small Chin / Receding Chin)
1-2 ccคางมีขนาดเล็ก ไม่ยื่นออกมาเพียงพอ ใบหน้าด้านข้างดูไม่สมดุลคางมีมิติชัดเจนขึ้น ใบหน้าด้านข้างมีสัดส่วนที่สวยงาม
คางสองชั้น
(Double Chin)
2-3 ccคางมีไขมันสะสมทำให้เกิดรอยพับใต้คาง ขาดความคมชัดกรอบหน้าชัดเจนขึ้น ลดการมองเห็นคางสองชั้น
คางไม่สมมาตร
(Asymmetric Chin)
0.5-1.5 ccคางมีรูปทรงไม่สมมาตร ด้านหนึ่งสูงหรือต่ำกว่าอีกด้านคางมีความสมมาตรมากขึ้น เกิดความสมดุล
คางสั้นรุนแรง
(Severely Recessed Chin)
2-4 ccคางสั้นมาก เมื่อมองด้านข้างเห็นโครงหน้าไม่สมดุลอย่างชัดเจนเพิ่มความยาวของคาง ปรับโครงหน้าให้สมดุลมากขึ้น

ทั้งนี้ ปริมาณที่แสดงในตารางเป็นเพียงค่าเฉลี่ยโดยทั่วไป ซึ่งอาจมีการปรับเพิ่มหรือลดตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินและกำหนดปริมาณที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณในวันที่เข้ารับการรักษา

อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์คางยี่ห้อไหนดี? เปรียบเทียบยี่ห้อ คุณสมบัติ และราคา

ปัจจัยที่มีผลต่อการกำหนดปริมาณฟิลเลอร์คาง

การตัดสินใจว่า ฟิลเลอร์คาง ใช้กี่ cc นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเภทของปัญหาเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่แพทย์จะพิจารณาประกอบด้วย ได้แก่

ปัจจัยที่มีผลต่อการกำหนดปริมาณฟิลเลอร์คาง

1.โครงสร้างใบหน้าเดิม

รูปทรงใบหน้า: ใบหน้าทรงกลม ทรงรี ทรงสี่เหลี่ยม หรือทรงหัวใจ อาจต้องการปริมาณฟิลเลอร์คางที่แตกต่างกัน

สัดส่วนของใบหน้า: สัดส่วนระหว่างหน้าผาก จมูก และคาง (อัตราส่วนทองคำ) มีผลต่อปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม

2.เพศและอายุ

เพศ: โดยธรรมชาติ ผู้ชายและผู้หญิงมีโครงสร้างคางที่แตกต่างกัน

อายุ: ผิวหนังและกระดูกมีการเปลี่ยนแปลงตามอายุ ซึ่งมีผลต่อปริมาณฟิลเลอร์ที่จำเป็น

3.ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้

ความหนาแน่น: ฟิลเลอร์ที่มีความหนาแน่นต่างกัน (Soft, Medium, High Density) จะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน

ยี่ห้อและส่วนประกอบ: แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติเฉพาะที่อาจต้องการปริมาณที่แตกต่างกัน

4. เป้าหมายของการปรับรูปคาง

การแก้ไขเล็กน้อย: หากต้องการแค่ปรับแต่งเล็กน้อย อาจใช้ปริมาณน้อย (0.5-1 cc)

การเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด: หากต้องการเห็นความแตกต่างชัดเจน อาจต้องใช้ปริมาณมากขึ้น (2-4 cc)

ความแตกต่างของปริมาณฟิลเลอร์คางระหว่างชายและหญิง

ความแตกต่างทางกายวิภาคระหว่างคางของผู้ชายและผู้หญิงส่งผลต่อปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ตารางด้านล่างแสดงการเปรียบเทียบระหว่างปริมาณฟิลเลอร์คางที่เหมาะสมสำหรับชายและหญิง

รายละเอียดผู้หญิงผู้ชาย
ปริมาณเฉลี่ย1-3 cc3-5 cc
จุดประสงค์สร้างคางที่นุ่มนวล มีความโค้งมนสร้างคางที่มีความเป็นเหลี่ยม แข็งแรง
ลักษณะที่นิยมคางโค้งมนแต่มีรูปทรงชัดเจน ไม่ยื่นมากเกินไปคางที่มีความเป็นเหลี่ยม กว้าง และยื่นออกมาชัดเจน
บริเวณที่เน้นด้านหน้าและปลายคางกรอบคางและความกว้างของคาง
ความสมดุลกับใบหน้าสร้างความอ่อนหวาน เพิ่มความเป็นผู้หญิงเสริมความเข้มแข็ง เพิ่มความเป็นชาย

หมายเหตุ: ผู้ชายมักต้องการปริมาณฟิลเลอร์คางมากกว่าผู้หญิง เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วโครงสร้างใบหน้าและคางของผู้ชายจะใหญ่กว่า และต้องการความชัดเจนของกรอบหน้ามากกว่า ทั้งนี้ ปริมาณที่เหมาะสมยังขึ้นอยู่กับลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล แพทย์จะประเมินและแนะนำปริมาณที่เหมาะสมที่สุด

ผลลัพธ์ที่ได้กับปริมาณฟิลเลอร์คางที่แตกต่างกัน

ผลลัพธ์ที่ได้กับปริมาณฟิลเลอร์คางที่แตกต่างกัน

0.5-1 cc: การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

  • เติมเต็มรอยบุ๋มหรือรอยเว้าเล็กๆ บริเวณคาง
  • แก้ไขความไม่สมมาตรเล็กน้อย
  • ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าอย่างชัดเจน

1-2 cc: การเปลี่ยนแปลงปานกลาง

  • เพิ่มความยาวของคางได้ 2-4 มม.
  • สร้างความชัดเจนให้กับกรอบหน้า
  • เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนแต่ยังดูเป็นธรรมชาติ

2-3 cc: การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด

  • เพิ่มความยาวของคางได้ 4-6 มม.
  • ปรับโครงหน้าให้มีสัดส่วนที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสั้นปานกลางถึงรุนแรง

3-4 cc: การเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

  • เพิ่มความยาวของคางได้ 6-8 มม.
  • เปลี่ยนโครงหน้าอย่างเห็นได้ชัดเจน
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสั้นรุนแรง
  • ควรฉีดเป็นหลายครั้ง (2-3 ครั้ง) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

หมายเหตุ: การเพิ่มปริมาณ cc มากเกินไปในครั้งเดียวอาจทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือเกิดผลข้างเคียงได้ แพทย์อาจแนะนำให้ทยอยฉีดเป็นหลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

คำแนะนำก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์คาง

ก่อนตัดสินใจว่า ฟิลเลอร์คาง ใช้กี่ cc เหมาะกับคุณ มีคำแนะนำสำคัญที่ควรพิจารณาดังนี้

1. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

  • เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทางด้านการฉีดฟิลเลอร์
  • ร่วมวางแผนการรักษาและตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
  • แพทย์จะประเมินโครงสร้างใบหน้าและแนะนำปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมที่สุด

2. เริ่มจากปริมาณน้อยก่อน

  • ควรเริ่มจากปริมาณน้อยก่อนแล้วค่อยเพิ่มในครั้งถัดไป
  • การฉีดแบบทยอยจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
  • สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้หากยังไม่พอใจผลลัพธ์

3. พิจารณาราคาและความคุ้มค่า

  • ฟิลเลอร์คุณภาพดีมีราคาประมาณ 9,000-20,000 บาทต่อ 1 cc
  • ควรคำนวณงบประมาณให้เหมาะสมกับปริมาณที่แพทย์แนะนำ
  • คำนึงถึงความจำเป็นในการฉีดซ้ำทุก 8-18 เดือน

4. เตรียมตัวก่อนและหลังการฉีด

  • งดยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดก่อนฉีด 1 สัปดาห์
  • หลังฉีดควรงดแตะบริเวณที่ฉีด งดออกกำลังกายหนัก และงดแอลกอฮอล์ 24-48 ชั่วโมง
  • เตรียมใจว่าอาจมีอาการบวม รอยช้ำ หรือรอยแดงชั่วคราวหลังฉีด

บทสรุป

ฟิลเลอร์คาง ใช้กี่ cc โดยปริมาณฟิลเลอร์คางที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 1-4 cc ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาและลักษณะโครงหน้า ปัญหาเล็กน้อยใช้ปริมาณน้อย ปัญหารุนแรงต้องใช้ปริมาณมากขึ้น ผู้หญิงมักใช้น้อยกว่าผู้ชายเพื่อความนุ่มนวล ไม่มีปริมาณมาตรฐานตายตัวสำหรับทุกคน การปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญและเริ่มจากปริมาณน้อยจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัยที่สุด

หมอฉีดฟิลเลอร์ที่ดี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า