หลังฉีดฟิลเลอร์สะโพก เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หากต้องการให้ผลลัพธ์สวยงามและอยู่ได้นาน เพราะแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์สะโพกจะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่การดูแลตัวเองหลังทำก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าตัวหัตถการเอง
บทความนี้จะรวบรวมเคล็ดลับการดูแลตัวเอง หลังฉีดฟิลเลอร์สะโพก เพื่อให้สะโพกสวยเป๊ะ มั่นใจในทุกการเคลื่อนไหว โดยไม่ผ่านการผ่าตัด
สารบัญ
หลังฉีดฟิลเลอร์สะโพก ช่วง 48 ชั่วโมงแรกถือเป็นช่วงเวลาวิกฤตที่สุด เพราะฟิลเลอร์ยังไม่เซ็ตตัวและร่างกายกำลังปรับตัวกับสารเติมเต็มที่ได้รับเข้าไป การดูแลในช่วงนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามตามที่ตั้งใจไว้
สิ่งที่ควรทำ 48 ชั่วโมงแรก
- พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการนอนทับบริเวณที่ฉีด แนะนำให้นอนคว่ำหรือนอนตะแคงข้างที่ไม่ได้ฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว
- ประคบเย็นเบาๆ โดยห่อน้ำแข็งด้วยผ้าสะอาด ประคบบริเวณที่มีอาการบวมหรือรอยช้ำ ประมาณ 10-15 นาที วันละ 3-4 ครั้ง แต่ไม่ควรวางน้ำแข็งโดยตรงบนผิวหนัง
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยในการขับของเสียและลดอาการบวม
- สวมชุดหลวมๆ สบายๆ เพื่อลดการกดทับบริเวณที่ฉีด และควรใช้ผ้ารัดสะโพกตามที่แพทย์แนะนำ
สิ่งที่ห้ามทำโดยเด็ดขาด
- ห้ามนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด ในช่วง 7 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งที่ไม่ต้องการ
- งดออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่ต้องใช้สะโพก เช่น วิ่ง กระโดด หรือยกน้ำหนัก อย่างน้อย 7-10 วัน
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพราะจะทำให้เกิดอาการบวมมากขึ้นและชะลอการฟื้นตัว
- หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า อบไอน้ำ หรือแช่น้ำร้อน เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะความร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์สะโพก เติมเต็มสะโพกและก้นให้เด้งสวย โดยแพทย์ด้านผิวหนัง
การดูแลรอยช้ำและอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์สะโพก
อาการบวมและรอยช้ำเป็นผลข้างเคียงปกติที่อาจพบได้ หลังฉีดฟิลเลอร์สะโพก ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วง 1-3 วันแรกและค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ การดูแลอย่างถูกวิธีจะช่วยให้อาการเหล่านี้หายเร็วขึ้น
เทคนิคการลดอาการบวม
- ประคบเย็น ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อลดการอักเสบและบรรเทาอาการบวม
- หลังจาก 48 ชั่วโมง สามารถประคบอุ่นเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและช่วยให้รอยช้ำหายเร็วขึ้น
- ทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม กีวี พริกหวาน ซึ่งจะช่วยในการสร้างคอลลาเจนและช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยาแอสไพริน หรือยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เนื่องจากอาจทำให้เกิดรอยช้ำมากขึ้น ยกเว้นได้รับคำแนะนำจากแพทย์
- นวดเบาๆ บริเวณที่มีรอยช้ำ แต่ควรทำหลังจาก 7 วันไปแล้วและต้องนวดอย่างเบามือเพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์เปลี่ยนรูปทรง
หลังจากฉีดฟิลเลอร์สะโพกครบ 7 วัน ถ้าพบว่าฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง สามารถบีบ คลึง บริเวณสะโพกได้ แต่ควรทำอย่างเบามือ เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์เปลี่ยนรูปทรง
การดูแลระยะกลางเพื่อรักษาทรงสวย
ช่วงเวลา 1-4 สัปดาห์ หลังฉีดฟิลเลอร์สะโพก เป็นระยะที่ฟิลเลอร์เริ่มเซ็ตตัวและเข้ารูปทรงอย่างสมบูรณ์ การดูแลในช่วงนี้จะช่วยให้ฟิลเลอร์กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอและได้รูปทรงที่สวยงามตามที่ต้องการ
เคล็ดลับยืดอายุฟิลเลอร์
- รักษาน้ำหนักให้คงที่ การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเพิ่มหรือลด อาจส่งผลต่อรูปร่างสะโพกและการกระจายตัวของฟิลเลอร์
- ออกกำลังกายบริเวณสะโพกและต้นขา อย่างสม่ำเสมอเพื่อเสริมกล้ามเนื้อและช่วยให้สะโพกมีรูปทรงที่สวยงาม เช่น สควอท บริดจ์ หรือกลูต คิก
- ทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน และอีลาสตินเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว และช่วยเสริมการทำงานของฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการนั่งนานๆ ในท่าเดียวและหมั่นเปลี่ยนอิริยาบถ เพื่อลดแรงกดทับบริเวณสะโพกที่ฉีดฟิลเลอร์
- ป้องกันแสงแดด โดยทาครีมกันแดดเมื่อต้องออกแดด เพราะแสง UV อาจเร่งการเสื่อมสลายของฟิลเลอร์
- ลดการเสียดสี หลีกเลี่ยงการสวมกางเกงที่คับหรือรัดแน่นเกินไป โดยเฉพาะในช่วงแรกหลังฉีด
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์สะโพก อยู่ได้นานแค่ไหน ? เผยความจริงที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจ
สัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพบแพทย์
แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์สะโพกจะเป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ หลังฉีดฟิลเลอร์สะโพก ควรสังเกตอาการผิดปกติต่อไปนี้ และรีบพบแพทย์ทันทีหากพบสัญญาณเตือน
สัญญาณอันตรายที่ต้องระวัง
- อาการบวมรุนแรง ที่ไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงหลังจาก 72 ชั่วโมง
- ปวดรุนแรง ที่ไม่บรรเทาด้วยยาแก้ปวดทั่วไป
- มีรอยแดง ร้อน หรือมีไข้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
- ผิวเปลี่ยนสีผิดปกติ เช่น ซีดขาวหรือเขียวคล้ำ
ฉีดฟิลเลอร์สะโพกแล้วเมื่อไหร่จะเห็นผลลัพธ์ที่แท้จริง?
หลังฉีดฟิลเลอร์สะโพกจะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที แต่อาจมีอาการบวมในช่วงแรก ผลลัพธ์ที่แท้จริงจะเห็นชัดเจนหลังจากอาการบวมยุบลงประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่ฟิลเลอร์เข้าที่และเข้ารูปตามที่แพทย์ออกแบบไว้
หลังฉีดฟิลเลอร์สะโพกสามารถนอนทับด้านที่ฉีดได้หรือไม่?
ในช่วง 2-3 วันแรก ควรหลีกเลี่ยงการนอนทับบริเวณที่ฉีดเพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวหรือกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ แนะนำให้นอนคว่ำหรือตะแคงด้านที่ไม่ได้ฉีด หลังจากนั้นสามารถนอนในท่าปกติได้ แต่ไม่ควรนอนทับด้านที่ฉีดนานเกินไป
ฟิลเลอร์สะโพกอยู่ได้นานแค่ไหน?
ฟิลเลอร์สะโพกโดยทั่วไปอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลตัวเองหลังฉีด หากใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Variofill ซึ่งมีความเข้มข้นของ Hyaluronic acid สูง อาจอยู่ได้นานถึง 2-3 ปี
บทสรุป
การดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง หลังฉีดฟิลเลอร์สะโพก เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและคงอยู่ได้นาน ในช่วง 48 ชั่วโมงแรกควรพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก และการนั่งนานๆ ในท่าเดียว ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมและรอยช้ำ หลังจากนั้นควรค่อยๆ กลับมาทำกิจกรรมต่างๆ ตามคำแนะนำของแพทย์
นอกจากนี้ การเข้าพบแพทย์ตามนัดยังช่วยให้แพทย์สามารถติดตามผลและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการฉีดฟิลเลอร์สะโพกและมีความมั่นใจในรูปร่างที่สวยงามมากขึ้น