การทำ รีแพร์ กระชับช่องคลอด เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นสำหรับผู้หญิงที่ประสบปัญหาช่องคลอดหย่อนคล้อยหลังคลอดบุตร หรือจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อความมั่นใจและคุณภาพชีวิต ปัจจุบันการรีแพร์ กระชับช่องคลอดมีหลากหลายวิธีให้เลือก ทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด โดยเทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยให้การรักษาปลอดภัย ฟื้นตัวไว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับการรีแพร์ กระชับช่องคลอด ข้อดี ข้อควรรู้ และวิธีการต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด
สารบัญ

รีแพร์ กระชับช่องคลอด คือกระบวนการทางการแพทย์ที่ช่วยฟื้นฟูความกระชับของช่องคลอดให้กลับมามีสภาพใกล้เคียงกับก่อนการคลอดบุตรหรือก่อนมีการเปลี่ยนแปลงจากวัยทอง ในทางการแพทย์เรียกว่า Vaginal Rejuvenation หรือ Vaginoplasty โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ดังนี้
- เพิ่มความกระชับของช่องคลอด
- แก้ไขปัญหาการหย่อนคล้อยของช่องคลอด
- ลดอาการปัสสาวะเล็ด
- เพิ่มความพึงพอใจในเรื่องเพศสัมพันธ์
- ฟื้นฟูความมั่นใจให้กับผู้หญิง
การรีแพร์ กระชับช่องคลอดไม่ใช่เพียงเรื่องความสวยงามหรือเพื่อชีวิตเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหาทางสุขภาพ เช่น อาการปัสสาวะเล็ด ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้หญิงหลังคลอดและวัยทอง
อ่านเพิ่มเติม : กระชับช่องคลอด เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผู้หญิงด้วยวิธีเร่งด่วน
ปัญหาช่องคลอดหย่อนคล้อยหรือขาดความกระชับ มีสาเหตุหลักดังนี้
การคลอดบุตร
การคลอดทางช่องคลอดโดยเฉพาะการคลอดบุตรหลายคน ทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและช่องคลอดถูกยืดออก บางครั้งอาจมีการฉีกขาดของฝีเย็บ ซึ่งแม้จะมีการเย็บซ่อมแซมแล้ว แต่ก็อาจไม่กลับมากระชับเหมือนเดิม
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ภาวะขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนในวัยทอง ทำให้ผนังช่องคลอดบางลง ขาดความยืดหยุ่น และมีความหล่อลื่นน้อยลง ซึ่งส่งผลให้ช่องคลอดหย่อนคล้อยและแห้งตัว
อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินในเนื้อเยื่อลดลง ทำให้ผิวและเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกายหย่อนคล้อย รวมถึงบริเวณช่องคลอดด้วย
น้ำหนักตัวที่มากเกินไป
ภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนทำให้มีแรงกดทับบริเวณอุ้งเชิงกรานมากขึ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อบริเวณนี้อ่อนแอลง
กิจกรรมที่มีแรงกระแทกสูง
การออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่มีแรงกระแทกสูงเป็นประจำ อาจส่งผลให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแอลงได้
วิธีการรีแพร์ กระชับช่องคลอดที่มีให้เลือกในปัจจุบัน
ปัจจุบันมีวิธีการรีแพร์ กระชับช่องคลอดหลายวิธี ทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ดังตารางเปรียบเทียบต่อไปนี้
วิธีการ หลักการทำงาน ระยะเวลาทำ ระยะเวลาพักฟื้น ผลลัพธ์คงอยู่ ระดับความเจ็บปวด ความเหมาะสม
การผ่าตัด ผ่าตัดกระชับกล้ามเนื้อช่องคลอดและตัดเนื้อเยื่อที่หย่อนคล้อย 1-2 ชั่วโมง 4-6 สัปดาห์ ถาวร สูง (ต้องดมยาสลบ) เหมาะกับปัญหาหย่อนคล้อยมาก
เลเซอร์รีแพร์ Forma V ช้เลเซอร์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผนังช่องคลอด 15-30 นาที ไม่ต้องพักฟื้น 12-18 เดือน ต่ำ-ปานกลาง เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยน้อยถึงปานกลาง
ฟิลเลอร์ ฉีดสารเติมเต็มเพื่อเพิ่มความหนาของผนังช่องคลอด 30 นาที-1 ชั่วโมง 1-3 วัน 6-12 เดือน ต่ำ-ปานกลาง เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลทันที
รายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละวิธี
1. การผ่าตัดกระชับช่องคลอด
ข้อดี
- ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร
- แก้ไขได้ทั้งโครงสร้างภายในและภายนอก
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหย่อนคล้อยมาก
ข้อเสีย
- มีความเสี่ยงจากการผ่าตัด
- ระยะเวลาพักฟื้นนาน 4-6 สัปดาห์
- ค่าใช้จ่ายสูง
- อาจมีแผลเป็น
2. เลเซอร์กระชับช่องคลอด
ข้อดี
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล
- ใช้เวลาทำเพียง 15-30 นาที
- ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถกลับไปทำงานได้ทันที
- ผลลัพธ์ค่อยๆ ดีขึ้นหลังการรักษา
ข้อเสีย
- ต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี (ประมาณ 3-5 ครั้ง)
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร อาจต้องทำซ้ำทุก 12-18 เดือน
- อาจรู้สึกแสบร้อนเล็กน้อยระหว่างทำ
3. การฉีดฟิลเลอร์
ข้อดี
- เห็นผลทันที
- ใช้เวลาทำเพียง 15-30 นาที
- ไม่ต้องพักฟื้นนาน
ข้อเสีย
- ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ต้องทำซ้ำ
- อาจมีอาการบวม ปวด หรือรู้สึกไม่สบายหลังทำ
ค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่ายในการทำรีแพร์ กระชับช่องคลอดขึ้นอยู่กับวิธีการและสถานพยาบาล โดยทั่วไปมีราคาดังนี้
- การผ่าตัด: 50,000 – 100,000 บาท
- เลเซอร์: 15,000 – 30,000 บาทต่อครั้ง
- ฟิลเลอร์: 25,000 – 40,000 บาทต่อครั้ง
ความคาดหวังที่เหมาะสม
ควรมีความคาดหวังที่สมเหตุสมผลต่อผลลัพธ์ การรีแพร์ กระชับช่องคลอดสามารถปรับปรุงความกระชับได้ แต่ไม่สามารถทำให้กลับมาเหมือนก่อนคลอดบุตรได้ 100% และผลลัพธ์จะแตกต่างกันในแต่ละคน
การทำรีแพร์ กระชับช่องคลอดให้ประโยชน์หลายประการ
ประโยชน์ทางกายภาพ
- ช่องคลอดกระชับขึ้น
- ลดอาการปัสสาวะเล็ด
- ลดอาการแห้งของช่องคลอด
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับช่องคลอด
- ลดการติดเชื้อในช่องคลอด
ประโยชน์ทางจิตใจ
- เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง
- ลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับรูปร่างของช่องคลอด
- ความสัมพันธ์กับคู่รักดีขึ้น
ประโยชน์ในชีวิตเพศสัมพันธ์
- เพิ่มความรู้สึกระหว่างมีเพศสัมพันธ์
- ลดอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
- เพิ่มโอกาสในการถึงจุดสุดยอด
หลังจากทำรีแพร์ กระชับช่องคลอด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และมีการดูแลตัวเองดังนี้
สำหรับการผ่าตัด
- งดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์
- รักษาความสะอาดบริเวณแผลตามที่แพทย์แนะนำ
- หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือออกกำลังกายหนักๆ เป็นเวลา 4-6 สัปดาห์
- รับประทานยาปฏิชีวนะและยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง
- สังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดออกมาก มีกลิ่นผิดปกติ หรือมีไข้
สำหรับการรักษาแบบไม่ผ่าตัด
- งดการมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีรุนแรงในบริเวณช่องคลอด
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยในการขับถ่าย
- หลีกเลี่ยงการแช่น้ำร้อน อบซาวน่า หรือสระว่ายน้ำเป็นเวลา 1 สัปดาห์
- หากมีอาการแสบร้อนหรือคันผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
อ่านเพิ่มเติม : กระชับช่องคลอดที่ไหนดี : พร้อมเกณฑ์เลือกคลินิก ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
บทสรุป
การทำรีแพร์ กระชับช่องคลอดเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหาช่องคลอดหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบัน ทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ทำให้ผู้หญิงมีทางเลือกที่หลากหลายตามความเหมาะสมกับสภาพร่างกายและงบประมาณ
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจทำรีแพร์ กระชับช่องคลอดควรผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ และควรปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวคุณ การดูแลและฟื้นฟูหลังการรักษาก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
สุดท้ายนี้ การทำรีแพร์ กระชับช่องคลอดไม่ใช่เพียงเรื่องของความสวยงามหรือความพึงพอใจทางเพศเท่านั้น แต่ยังเป็นการดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้หญิงอย่างครบวงจร ให้กลับมามั่นใจและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง