ฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม? รวมเรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจ

ฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม? รวมเรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจ

ฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม? เป็นคำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยก่อนตัดสินใจเสริมความงาม ริมฝีปากอวบอิ่มเป็นหนึ่งในความงามที่หลายคนปรารถนา ทำให้การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นทางเลือกยอดนิยมในปัจจุบัน แต่ความกังวลเรื่อง ฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม มีเหตุผล เนื่องจากริมฝีปากเป็นบริเวณที่บอบบางและมีเส้นเลือดมากมาย หากฉีดไม่ถูกวิธีอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงจริงของฟิลเลอร์ปาก ข้อควรระวัง วิธีป้องกันอันตราย และข้อแนะนำสำคัญที่ควรทราบก่อนตัดสินใจฉีด เพื่อให้คุณได้ริมฝีปากสวยอย่างปลอดภัย

สารบัญ

ฟิลเลอร์ปากคืออะไร?

ฟิลเลอร์ปาก คือ การฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในริมฝีปากและบริเวณรอบปาก เพื่อเพิ่มปริมาตร ปรับรูปทรง และลดเลือนริ้วรอยรอบริมฝีปาก สารที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ปากที่แนะนำให้ใช้คือ Hyaluronic Acid (HA) เท่านั้น ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่แล้วในร่างกายมนุษย์ตามธรรมชาติ ทำให้มีความปลอดภัยสูงและลดความเสี่ยงของการแพ้

ฟิลเลอร์ปากคืออะไร? ยี่ห้อไหนที่ได้ความนิยมบ้าง

ฟิลเลอร์ HA ที่นิยมใช้สำหรับริมฝีปากมีหลายแบรนด์ เช่น

  • Juvederm เช่น Juvederm Volite, Juvederm Volift, Juvederm Ultra Plus, Juvederm Voluma
  • Restylane เช่น Restylane Volyme, Restylane Vital light, Restylane Refyne, Restylane Kysse
  • E.P.T.Q เช่น E.P.T.Q S300

ข้อดีของฟิลเลอร์ HA คือสามารถสลายได้ตามธรรมชาติภายใน 6-18 เดือน และหากเกิดปัญหาสามารถฉีดเอนไซม์ Hyaluronidase เพื่อสลายฟิลเลอร์ได้ทันที ซึ่งเป็นข้อดีด้านความปลอดภัยที่สำคัญมาก

อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี? คู่มือเลือกฟิลเลอร์ให้ปากอวบอิ่ม ปี 2025

ฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม? ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้

คำถามที่ว่า “ฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม” ไม่สามารถตอบได้ด้วยคำว่า “ใช่” หรือ “ไม่” เพียงอย่างเดียว เพราะความเสี่ยงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งประสบการณ์ของแพทย์ คุณภาพของฟิลเลอร์ และการดูแลหลังการฉีด โดยทั่วไปแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ปากอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงและผลข้างเคียง ดังนี้

ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย (มักไม่เป็นอันตรายร้ายแรง)

ผลข้างเคียงระยะเวลาที่เกิดวิธีรับมือ
รอยช้ำและรอยแดง1-7 วันประคบเย็น, หลีกเลี่ยงการนวดบริเวณที่ฉีด
อาการบวม24-72 ชั่วโมงประคบเย็น, นอนยกศีรษะสูง, ทานยาลดบวมตามแพทย์สั่ง
อาการเจ็บหรือไม่สบาย24-48 ชั่วโมงทานยาแก้ปวดที่ไม่ใช่แอสไพริน (เช่น พาราเซตามอล)
ก้อนหรือตุ่มเล็กๆอาจอยู่นานหลายวันถึงสัปดาห์ปรึกษาแพทย์เพื่อนวดหรือฉีดสลาย
ริมฝีปากแห้ง1-2 สัปดาห์ทาลิปบาล์มบ่อยๆ, ดื่มน้ำมากๆ

ผลข้างเคียงที่พบได้น้อยกว่า (อาจต้องได้รับการรักษา)

  • การติดเชื้อ – สังเกตได้จากอาการบวมแดง ร้อน เจ็บ หรือมีหนอง ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อหลังการฉีด
  • อาการแพ้ – อาจเกิดผื่นแดง คัน หรือบวมผิดปกติหลังการฉีด
  • ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ – ฟิลเลอร์อาจเคลื่อนออกจากตำแหน่งที่ต้องการ ทำให้ริมฝีปากไม่สมมาตร
  • ฟิลเลอร์เป็นก้อน – เกิดจากการฉีดเทคนิคไม่ดีหรือผู้รับบริการนวดปากหลังฉีด

ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้

มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงบางประการที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่พบได้น้อยมากเมื่อฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์

ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้

1. การอุดตันของเส้นเลือด

เป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายที่สุดของการฉีดฟิลเลอร์ปาก เกิดเมื่อฟิลเลอร์ถูกฉีดเข้าเส้นเลือดโดยตรงหรือกดทับเส้นเลือด ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ นำไปสู่การขาดเลือดและเนื้อเยื่อตาย

สัญญาณเตือน

  • ปวดรุนแรงผิดปกติ
  • ซีดขาวหรือเขียวคล้ำบริเวณที่ฉีด
  • เปลี่ยนสีของผิวหนัง
  • รู้สึกชาหรือหมดความรู้สึก

การรับมือ: ต้องได้รับการรักษาทันทีด้วยการฉีดสาร Hyaluronidase เพื่อสลายฟิลเลอร์

2. การติดเชื้อรุนแรง

การติดเชื้อที่รุนแรงอาจเกิดขึ้นได้หากไม่มีการฆ่าเชื้ออย่างเพียงพอ หรือมีการฉีดในสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด

สัญญาณเตือน

  • บวม แดง ร้อน เจ็บมาก
  • มีหนอง
  • มีไข้

การรับมือ: ต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะและอาจต้องเจาะระบายหนอง

3. การแพ้รุนแรง

แม้จะพบได้น้อยมาก แต่อาจเกิดปฏิกิริยาแพ้รุนแรงต่อส่วนประกอบในฟิลเลอร์

สัญญาณเตือน

  • หายใจลำบาก
  • บวมที่ใบหน้าและลำคอ
  • หัวใจเต้นเร็ว
  • วิงเวียน หน้ามืด

การรับมือ: ต้องได้รับการรักษาฉุกเฉินทันที ด้วยการฉีด Epinephrine

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ปาก

เพื่อลดความเสี่ยงและตอบคำถาม “ฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม” ด้วยการเตรียมตัวที่ดี ควรทราบข้อมูลต่อไปนี้

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ปาก

1. คุณสมบัติของผู้ที่เหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • มีสุขภาพดี ไม่มีโรคผิวหนังบริเวณริมฝีปาก
  • ไม่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ไม่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบในฟิลเลอร์
  • มีความคาดหวังที่สมเหตุสมผล
  • ไม่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือโรคออโตอิมมูน

2. สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • งดยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วาร์ฟาริน 7-10 วันก่อนฉีด (ปรึกษาแพทย์หากเป็นยาประจำ)
  • งดอาหารเสริมที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการฟกช้ำ เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา กระเทียม ขิง 7-10 วันก่อนฉีด
  • งดแอลกอฮอล์ 24-48 ชั่วโมงก่อนฉีด
  • งดฉีดวัคซีนใดๆ 2 สัปดาห์ก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์
  • ไม่ควรมีเริมที่กำลังปะทุอยู่บริเวณริมฝีปาก

3. คำถามที่ควรถามแพทย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • ยี่ห้อและชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้
  • จำนวน CC ที่แนะนำสำหรับริมฝีปากของคุณ
  • ประสบการณ์ของแพทย์ในการฉีดฟิลเลอร์ปาก
  • ภาพก่อน-หลังของลูกค้าคนอื่น
  • วิธีรับมือหากเกิดภาวะแทรกซ้อน
  • มีสาร Hyaluronidase พร้อมใช้งานในคลินิกหรือไม่

วิธีเลือกคลินิกและแพทย์ที่ปลอดภัย

วิธีเลือกคลินิกและแพทย์ที่ปลอดภัย

การเลือกคลินิกและแพทย์ที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการลดความเสี่ยงจากการฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรพิจารณาดังนี้

1. คุณสมบัติที่ควรมีในแพทย์ผู้ฉีด

  • เป็นแพทย์ที่มีใบประกอบและได้รับการอบรมเฉพาะทาง
  • มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านความงามและการฉีดฟิลเลอร์
  • มีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ปากมาหลายปี
  • มีความเข้าใจในกายวิภาคของใบหน้าและริมฝีปากเป็นอย่างดี

2. มาตรฐานคลินิกที่ควรมี

  • ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • มีความสะอาดและมีการฆ่าเชื้อตามมาตรฐานการแพทย์
  • มียาและอุปกรณ์สำหรับรับมือกรณีฉุกเฉิน
  • มีสาร Hyaluronidase พร้อมใช้งานเสมอ

3. สัญญาณเตือนที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ราคาที่ถูกผิดปกติ (อาจใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน)
  • ไม่เปิดเผยยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้
  • ผู้ฉีดไม่ใช่แพทย์
  • ไม่มีการแจ้งความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
  • คลินิกดูไม่สะอาดหรือไม่ได้มาตรฐาน
  • มีการโฆษณาเกินจริง

บทสรุป

ฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม? คำตอบคือ การฉีดฟิลเลอร์ปากมีความปลอดภัยค่อนข้างสูงหากดำเนินการโดยแพทย์ผู้ที่ประสบการณ์ด้านฟิลเลอร์โดยตรง ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน 

ปัจจัยสำคัญที่สุดในการลดความเสี่ยงคือการเลือกคลินิกและแพทย์ที่น่าเชื่อถือ ไม่ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ปากเพียงเพราะราคาถูก เพราะความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นมีค่าใช้จ่ายในการแก้ไขสูงกว่ามาก

หากคุณกำลังพิจารณาฉีดฟิลเลอร์ปาก ให้ทำการบ้านอย่างดี ศึกษาข้อมูล และเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญ รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ริมฝีปากสวยอย่างปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ

หมอฉีดฟิลเลอร์ที่ดี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า